เทคนิคการเลือกประกันเดินทางต่างประเทศ ที่ไหนดี คุ้มครองครบ

กายพร้อม ใจพร้อม เงินพร้อม แผนการท่องเที่ยวก็พร้อม อีกสิ่งหนึ่งที่ควรพร้อมเมื่อจะออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศก็คือ การเลือกซื้อประกันเดินทางต่างประเทศ แต่จะเลือกที่ไหนดี ? ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระได้หากเกิดเหตุสุดวิสัยอันไม่คาดฝันขึ้น  

เหตุการณ์ไม่คาดฝันที่มักจะเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง

แม้ว่าเราจะวางแผนการเดินทางเป็นอย่างดี แต่บางสิ่งก็เหนือการควบคุม และส่งผลกระทบต่อการเดินทาง แถมบางครั้งทำให้ต้องเสียเงินเพิ่มขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ที่มักเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง มีดังต่อไปนี้ 

• ไฟลต์บินดีเลย์หรือถูกยกเลิก ซึ่งก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะเจอแจ็กพอตเมื่อไร อาจมีสาเหตุมาจากการจัดการของสายการบินเอง หรือสภาพภูมิอากาศ 

• กระเป๋าเดินทางหาย ล่าช้า หรือชำรุด เป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นในทุกวัน และเกิดขึ้นกับใครก็ได้ ลองคิดดูว่าถ้าหากของในกระเป๋านั้นหายไป จะต้องสูญเสียทรัพย์สินไปมากมายขนาดไหน คงหมดสนุกแน่ โดยเฉพาะหากเป็นการสูญหายในขาไป อาจจะต้องซื้อข้าวของเครื่องใช้ใหม่ทั้งหมด

• อุบัติเหตุซึ่งเกิดขึ้นได้ทุกที่ หากเกิดในประเทศก็ว่าลำบากแล้ว แต่การไปประสบเหตุในต่างประเทศคงยุ่งยากยิ่งกว่า รวมถึงค่ารักษาพยาบาลที่มักจะสูงกว่าในประเทศไทย

• เจ็บป่วย ค่ารักษาพยาบาลในบางประเทศแพงกว่าที่ประเทศไทยมาก หากเจ็บหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล คงไม่ดีแน่หากเราต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้นด้วยตนเอง

• เสียชีวิต หรือหากมีใครเสียชีวิตขึ้นมา ย่อมต้องมีค่าใช้จ่ายมากมายอย่างแน่นอน ทั้งการเก็บรักษา ทั้งการขนส่งผู้เสียชีวิตกลับมายังบ้านเกิด

ด้วยเหตุนี้ ทุกครั้งที่เดินทาง จึงต้องทำประกันเดินทางต่างประเทศ ที่ครอบคลุมทั้งชีวิต สุขภาพ ทรัพย์สิน รวมถึงเรื่องฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศ 

แต่จะเลือกทำประกันเดินทางต่างประเทศที่ไหนดี ในปี 2568 เพราะมีประกันเดินทางจากหลายบริษัทประกันให้เลือก แต่ละบริษัทฯ จะมีเงื่อนไขและแผนประกันที่แตกต่างกันไป และใช่ว่าทุกเจ้าจะคุ้มหรือเหมาะกับเราไปทั้งหมด ในบทความนี้ มีคำตอบมาฝากทุกคน อ่านจบสามารถเลือกแผนที่เหมาะกับความต้องการของแต่ละคนได้เลย 

รูปแบบประกันการเดินทาง

ก่อนจะตัดสินใจว่าจะทำประกันเดินทางต่างประเทศที่ไหนดี ? เราควรมาศึกษาให้เข้าใจก่อนว่าประกันเดินทางนั้นมีแบบไหนบ้าง เพื่อจะได้รู้ว่ารูปแบบไหนเหมาะกับเรามากที่สุด โดยทั่วไปแล้ว ประกันเดินทางต่างประเทศของแต่ละบริษัทฯ จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ นั่นคือ “แบบรายครั้ง/เที่ยว” กับ “แบบรายปี”

รายครั้ง/เที่ยว

ประกันเดินทางแบบรายเที่ยว คือ รูปแบบประกันเดินทางต่างประเทศที่ให้ความคุ้มครองการท่องเที่ยว 1 ทริป แต่ละบริษัทอาจมีความคุ้มครองที่แตกต่างกันไป มักจะกำหนดระยะเวลาวันเดินทางออกจากไทยและวันกลับเอาไว้ชัดเจน เช่น 4-6 วัน หรือ 7-14 วัน หรือบางบริษัทอาจเจาะจงกลุ่มประเทศที่ให้ความคุ้มครองโดยเฉพาะ เพื่อให้เราได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่าที่สุด เช่น ประเทศในเอเชีย ประเทศในยุโรป

ประกันเดินทางต่างประเทศรูปแบบนี้ เหมาะกับผู้ที่ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศบ่อยนัก เมื่อมีแผนเดินทางก็ซื้อประกันคุ้มครองเฉพาะทริปนั้น ๆ ราคาเริ่มต้นที่หลักร้อย

รายปี

ประกันเดินทางต่างประเทศแบบรายปี เป็นรูปแบบประกันเดินทางที่ให้ความคุ้มครองแบบเหมาเที่ยวการเดินทางเป็นระยะเวลา 1 ปี หมายความว่า ใน 1 ปีที่ทำประกันเดินทางนั้น เราจะเดินทางไปต่างประเทศกี่ครั้งก็ได้ ซึ่งจะให้ความคุ้มครองทุกประเทศทั่วโลกซึ่งระบุไว้ในกรมธรรม์ ดังนั้นจึงเหมาะกับผู้ที่เดินทางต่างประเทศบ่อย ๆ ราคาต่อปีจะสูงขึ้น แต่ยิ่งเดินทางบ่อย ราคาต่อเที่ยวก็จะยิ่งถูกลงมากเท่านั้น 

เลือกซื้อประกันการเดินทางต่างประเทศที่ไหนดี ต้องดูอะไรบ้าง ? 

ในเมื่อเข้าใจเรื่องรูปแบบของประกันเดินทางต่างประเทศเบื้องต้นแล้ว ต่อมาก็เป็นวิธีการเลือกซื้อประกันเดินทางต่างประเทศ แต่การจะดูว่าเราควรทำประกันเดินทางต่างประเทศกับที่ไหนดีนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมองหาแผนที่ตอบโจทย์เรามากที่สุด ความคุ้มครองคุ้มค่ามากที่สุด  

พิจารณาที่ความคุ้มครองที่ครอบคลุม

ประกันเดินทางต่างประเทศที่ดี ควรมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมกรณีฉุกเฉินพื้นฐานที่อาจเกิดขึ้นระหว่างที่เราอยู่ต่างแดน ได้แก่

• ค่ารักษาพยาบาล สิ่งที่หลายคนกังวลมากที่สุด ระหว่างเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ก็คือการเจ็บป่วยกะทันหัน เพราะภูมิอากาศของประเทศต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน หลายคนอาจเกิดปวดหัวตัวร้อน หรือภูมิแพ้กำเริบ ในกรณีนี้ การเตรียมยาสามัญพกเอาไว้ นับว่าช่วยได้ดี แต่หากเป็นหนักจนต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลในต่างประเทศแล้วล่ะก็ ประกันเดินทางที่ทำไว้ควรจะต้องครอบคลุมส่วนนี้ด้วยเป็นดีที่สุด

• ชดเชยกรณีเสียชีวิต กรณีนี้ไม่มีใครอยากให้เกิด สาเหตุอาจมาจากอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ประกันเดินทางที่ทำไว้ ควรมีวงเงินคุ้มครองในกรณีนี้ด้วย

• คุ้มครองค่าใช้จ่ายกรณีต้องเคลื่อนย้ายกลับประเทศแบบฉุกเฉิน หากต้องการรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง และจำต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกลับมาประเทศบ้านเกิด แผนประกันเดินทางที่เราทำอยู่ก็ควรให้ความคุ้มครองในส่วนนี้ 

• คุ้มครองทรัพย์สิน นอกจากจะต้องคุ้มครองสุขภาพหรือชีวิตของเราแล้ว ในส่วนของทรัพย์สินก็ต้องคุ้มครองด้วย เช่น กรณีกระเป๋าเดินทางสูญหาย หรือล่าช้า การถูกโจรกรรม เป็นต้น

• คุ้มครองกรณีเที่ยวบินถูกยกเลิกหรือล่าช้า หากเกิดเหตุการณ์ไฟลต์บินดีเลย์ หรือถูกยกเลิกไป ประกันเดินทางต่างประเทศก็ควรจะต้องซัปพอร์ตเราในส่วนนี้ได้ 

วัตถุประสงค์ในการเดินทาง

เราควรเลือกประกันเดินทางต่างประเทศให้เหมาะกับวัตถุประสงค์การเดินทางของเรา เช่น หากเดินทางไปเที่ยว 1 อาทิตย์แบบปีละ 1-2 ครั้ง การซื้อประกันเดินทางแบบรายเที่ยวก็เพียงพอแล้ว แต่หากใครมีเหตุให้ต้องไปต่างประเทศบ่อย ๆ กรณีนี้ควรซื้อประกันเดินทางแบบรายปีจะคุ้มค่ามากที่สุด หรือบางบริษัทอาจมีแผนประกันที่เฉพาะเจาะจงไปมากกว่านั้น เช่น อาจมีการเพิ่มความคุ้มครองอุบัติเหตุทางรถยนต์ในต่างแดน หรือแผนประกันสำหรับไปเยี่ยมผู้ป่วยในต่างประเทศโดยเฉพาะ

ประเทศที่จะเดินทางไป

ประกันเดินทางต่างประเทศจะมีการกำหนดโซนประเทศที่เราจะเดินทางไปด้วย เช่น หากไปหลายประเทศในแถบเอเชีย ก็ควรเลือกซื้อที่ครอบคลุมเฉพาะประเทศในเอเชีย หรือหากไปเพียงประเทศเดียว ก็อาจจะดูแผนที่คุ้มครองประเทศนั้น ๆ ไปเลย จะทำให้ได้เบี้ยประกันที่ถูกกว่า นอกจากนั้นในบางประเทศ เช่น โซนประเทศยุโรปที่เราต้องใช้ประกันเดินทางยื่นขอวีซ่าเชงเก้น เราควรตรวจสอบให้ดีว่า ประกันเดินทางของบริษัทใดสามารถนำไปยื่นได้บ้าง

ความน่าเชื่อถือ/ชื่อเสียงของบริษัท

ข้อนี้นับว่าสำคัญมาก เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจว่าจะทำประกันเดินทางต่างประเทศที่ไหนดี ? แม้ว่าข้อเสนอในกรมธรรม์จะน่าดึงดูดใจเพียงใด เราควรศึกษาข้อมูลบริษัทประกันนั้น ๆ ด้วยว่าน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน หากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นจริง ๆ สามารถติดต่อได้ทันที หรือตลอด 24 ชั่วโมงหรือไม่ หรือหากเจ็บป่วยขึ้นมา มีโรงพยาบาลที่เราสามารถเข้ารักษาได้มากน้อยเพียงใด เราอาจจะไปตามอ่านรีวิวของผู้ที่เคยซื้อประกันเดินทางของบริษัทนั้น ๆ ประกอบการตัดสินใจอีกที

เบี้ยประกันภัย

มีความคุ้มครองดี ก็ต้องมีค่าเบี้ยประกันภัยที่คุ้มค่าด้วย การซื้อประกันเดินทางต่างประเทศแบบรายปีสำหรับคนเที่ยวบ่อยมักได้เบี้ยประกันที่คุ้มกว่าแบบรายเที่ยว อีกทั้งยังไม่ต้องมาเลือกซื้อใหม่บ่อย ๆ หรือใครอาจจะไม่ได้บินเยอะ ไป 1 ครั้งต่อปี แต่อยู่นาน เช่น 30 วัน หรือ 90 วัน หลายคนคงคิดว่าซื้อแบบรายเที่ยวก็ได้ เพราะเดินทางแค่ครั้งเดียว แต่อยากให้ลองเปรียบเทียบเบี้ยประกันกับแบบรายปีสักหน่อย เพราะบางทีการเพิ่มเบี้ยอีกนิด อาจจะได้ความคุ้มครองที่คุ้มค่ามากกว่า 

เปรียบเทียบประกันเดินทางต่างประเทศที่ไหนดี อัปเดตปี 2568

ที่จริงแล้ว การเลือกซื้อประกันเดินทางต่างประเทศที่ไหนดี ไม่มีคำตอบที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับความต้องการของเรา ซึ่งสำหรับปี 2568 เรานำแผนประกันของบริษัทต่าง ๆ มาอัปเดต เพื่อประกอบการตัดสินใจวางแผนท่องเที่ยวของทุกคน 

 * ขึ้นอยู่กับแผนที่เลือก 

หากรู้แล้วว่าเราเหมาะกับประกันเดินทางต่างประเทศแบบไหน ก็ได้เวลามาเลือกซื้อกันจริง ๆ สักที คงจะดีไม่น้อยหากมีเว็บไซต์ที่ให้เราเปรียบเทียบราคาและกรมธรรม์ครบจบในที่เดียว เพื่อให้เรารู้ว่า ควรซื้อประกันเดินทางต่างประเทศที่ไหนดี อย่างเว็บไซต์เปรียบเทียบประกันเดินทางของ gettgo ตอบโจทย์คนที่ยังตัดสินใจเลือกประกันเดินทางที่ถูกใจไม่ได้ เพราะเพียงระบุข้อมูลเพียง 3 ขั้นตอนก็สามารถค้นหาและเลือกซื้อประกันเดินทางที่ตรงใจได้ง่าย ๆ 

1. ระบุประเทศและเวลาที่จะเดินทาง 

2. กรอกข้อมูลส่วนตัว

3. ชำระเงิน

เมื่อซื้อแล้ว เราจะได้รับกรมธรรม์ภายใน 24 ชั่วโมง และซื้อได้อย่างช้าที่สุด 2 ชั่วโมงก่อนเดินทางเลยทีเดียว ที่ gettgo มีทั้งประกันเดินทางต่างประเทศแบบรายเที่ยว และรายปี คุ้มครองตั้งแต่อายุ 1 ปี ไปจนถึง 85 ปี บอกเลยว่า gettgo ที่เดียวก็ครบ จบ คุ้ม !

แนะนำอ่านต่อ: กระเป๋าเดินทางหาย ขณะท่องเที่ยวต่างประเทศทำอย่างไรดี ? 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับทำประกันเดินทางที่ไหนดี ?

หากเดินทางหลายครั้งต่อปี ควรซื้อประกันเดินทางแบบไหนถึงจะคุ้มค่าที่สุด ?

แนะนำให้ซื้อประกันเดินทางแบบรายปี (Multi-Trip) เพราะคุ้มครองหลายทริปใน 1 ปี และยังมีความคุ้มครองที่มากกว่า เหมาะสำหรับคนที่เดินทางบ่อย ๆ ซึ่งนอกจากช่วยลดค่าเบี้ยประกันภัยแล้ว ยังไม่ต้องมาซื้อบ่อย ๆ อีกด้วย 

ประกันเดินทางต่างประเทศคุ้มครองการติดเชื้อโควิด-19 ด้วยหรือไม่ ?

ส่วนใหญ่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากการติดเชื้อโควิด-19 เอาไว้แล้ว และสามารถใช้ประกอบการยื่นวีซ่าเชงเก้นได้ทุกแผน 

การเคลมประกันเดินทางต่างประเทศมีขั้นตอนอย่างไร ?

ขั้นตอนทั่วไปของการเคลมประกันเดินทางต่างประเทศ มีดังต่อไปนี้ 

1. แจ้งเหตุที่ต้องการเคลมที่บริษัทหรือศูนย์ช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง

2. รวบรวมเอกสารสำหรับการขอเคลมประกัน เช่น ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล ใบรับรองแพทย์ ตั๋วเครื่องบิน ภาพหลักฐานกระเป๋าเดินทาง ใบรับรองการเดินทางล่าช้า 

3. กรอกแบบฟอร์มของทางบริษัทผ่านช่องทางออนไลน์ 

4. รอการตรวจสอบและอนุมัติ 

วีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) กำหนดให้ต้องมีประกันเดินทางวงเงินเท่าไร ?

การขอวีซ่าเชงเก้น ต้องแสดงหลักฐานประกันเดินทางต่างประเทศที่มีวงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลขั้นต่ำ 30,000 ยูโร หรือประมาณ 1,200,000 บาท ซึ่งครอบคลุมเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์และการส่งตัวกลับประเทศ