กำลังดำเนินการ กรุณารอสักครู่ค่ะ 😊
ก่อนที่จะเลือกซื้อประกันรถยนต์ gettgo จะพาไปทำความรู้จักกับลักษณะและความคุ้มครองของผลิตภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ ให้คุณเลือกประกันที่ใช่แบบเข้าใจง่าย เราแบ่งประเภทประกันรถยนต์ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
ประกันรถยนต์ภาคบังคับ หรือที่เราเรียกว่า พ.ร.บ. ซึ่งกฎหมายบ้านเราบังคับให้รถที่มีการจดทะเบียนต้องทำทุกคัน ถ้าไม่ทำก็จะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท อีกทั้งพ.ร.บ. ยังต้องใช้เพื่อต่อภาษีรถประจำปีด้วย
1) ค่ารักษาพยาบาล กรณีบาดเจ็บ
2) ค่าชดเชย กรณีนอนรักษาเป็นคนไข้ในโรงพยาบาล
3) ค่าปลงศพ กรณีเสียชีวิต
ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ โดยกฎหมายไม่ได้บังคับ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของคุณเอง ประกันรถยนต์ประเภทนี้จะมีให้เลือกหลายแบบ ซึ่งความคุ้มครองจะครอบคลุมถึงความเสียหายต่อตัวรถคุณ ชีวิตร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก เนื่องจากมีความคุ้มครองและสิทธิพิเศษมากกว่าประกันภาคบังคับ จึงมีอัตราค่าเบี้ยประกันที่สูงกว่าด้วย
ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจนั้นจะมีความแตกต่างกันไปตามประเภท ซึ่งคุณสามารถที่จะเลือกซื้อประกันประเภทนี้ตามความเหมาะสมได้ โดยพิจารณาจาก อายุรถ ลักษณะการใช้งาน ซึ่งหากคุณกำลังมองหาประกันที่คุ้มครองสูง แต่จ่ายเบี้ยในราคาที่คุ้มค่ากว่าก็ลองพิจารณา ที่ gettgo.com ได้เลยและก่อนที่จะเลือกซื้อประกันรถยนต์ gettgo จะพาไปทำความเข้าใจกับประภัยรถยนต์ภาคสมัครใจในแต่ละประเภทดังต่อไปนี้
สำหรับมือใหม่ หรือผู้ที่เพิ่งซื้อรถใหม่
ต้องการความคุ้มครองครบ
ถ้าคุณมีรถใหม่อายุไม่เกิน 10 ปี อยากขับรถแบบสบายใจ ได้ความคุ้มครองที่ครบ ต้องเลือกประกันชั้น 1 ซึ่งเป็นแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะคุ้มครองรถคุณ ไม่ว่าจะรถหาย รถชน ทั้งแบบมีคู่กรณีหรือไม่มี และคุ้มครองทรัพย์สิน ชีวิต ร่างกายและอนามัย ของคู่กรณีในกรณีเกิดอุบัติเหตุด้วย
สำหรับผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์ ใช้รถบ่อย
หากอยากได้ประกันราคาสบายกระเป๋าแต่ความคุ้มครองเกือบครบ คุณเหมาะกับประกันรถยนต์ประเภท 2+ ความคุ้มครองแทบจะเหมือนกับการทำประกันชั้น 1 ไม่ว่าจะรถชน รถหาย แต่จะไม่เหมือนประกันชั้น 1 ตรงที่จะคุ้มครองการชนแบบมีคู่กรณีเท่านั้น แต่เบี้ยประกันถูกลงกว่าเยอะ
สำหรับสายประหยัด แต่อยากอุ่นใจเรื่องอุบัติเหตุ
หากคุณอยากประหยัดเบี้ยประกันลงอีก และต้องการความคุ้มครองด้านอุบัติเหตุเป็นหลัก ประกันชั้น 3 + คือทางเลือกที่เหมาะสำหรับความคุ้มครองที่แทบจะเหมือนกับการทำประกันชั้น 2+ ต่างแค่ไม่คุ้มครองกรณีรถหาย
สำหรับผู้ชำนาญในการขับขี่ และผู้ใช้รถน้อย
สำหรับคนที่มั่นใจตัวเองว่าเป็นคนขับรถดี หรือใช้รถน้อย คุณน่าจะเหมาะกับประกัน ชั้น 3 ซึ่งจะคุ้มครองทรัพย์สิน ชีวิต ร่างกายและอนามัย ของคู่กรณีเท่านั้น เบี้ยประกันจะถูกที่สุดเพราะความคุ้มครองจะน้อยที่สุด
gettgo ขอขยายความการชนแบบมีคู่กรณี หรือแบบไม่มีคู่กรณี ให้เข้าใจมากขึ้น ดังนี้
รู้หรือไม่ ? รถที่ใช้มานานหลาย ๆ ปี ต้องเข้ารับการตรวจสภาพรถยนต์ด้วยนะ หลายคนอาจจะคิดว่า แค่ดูแลไม่ให้ไปเฉี่ยวชนจนเสียหาย หมั่นล้างรถให้ดี ก็น่าจะพอแล้ว รถก็ยังใช้ได้ไม่..
เดี๋ยวนี้เทรนด์สายมูกำลังมาแรง จะไปไหน ทำอะไรก็ต้องมีฤกษ์มงคล ไหนจะสีเสื้อประจำวัน ว่ากันว่าวันไหนดวงไม่ดี อาจเป็นเพราะใส่เสื้อสีกาลกิณีก็ได้ แน่นอนว่าการจะออกรถใหม่ ก็ต..
ใบขับขี่ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นในการขับรถ เพราะเป็นตัวรับประกันได้ว่าเราขับรถอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และขับรถได้จริง ๆ ดังนั้นหากจะขับรถทุกครั้ง ต้องพกใบขับขี่ติดตัวเอาไว้เสมอ หรือถ..
ประกันรถยนต์ (Motor Insurance) คือประกันภัยที่คุ้มครองผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงบุคคลที่สาม จากอุบัติเหตุหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการขับขี่รถยนต์ โดยจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกันตามค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่เกินวงเงินประกันภัยโดยจะคุ้มครอง 2 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่
แนะนำให้ทำประกันรถยนต์เพิ่มด้วยครับ เนื่องจากประกันรถยนต์จะให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมจาก พ.ร.บ.รถยนต์ เช่น ค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติม ค่าชดเชยต่างๆ รวมถึงค่าซ่อมรถด้วย แต่ พ.ร.บ. จะคุ้มครองเฉพาะค่ารักษาพยาบาล ค่าสินไหมทดแทนเมื่อเสียชีวิตเท่านั้น ไม่ได้คุ้มครองตัวรถนั่นเอง
นอกจากเลือกความคุ้มครองแล้ว ไลฟ์สไตล์การขับขี่ก็สำคัญไม่แพ้กัน
หากแต่งรถเพื่อความสวยงาม หรือเพื่อให้รถยึดเกาะกับถนนได้ดีขึ้น ประกันยังคงให้ความคุ้มครองครับ แต่ถ้าตกแต่งรถหลังจากทำประกันไปแล้ว ต้องแจ้งให้บริษัทฯ ประกันทราบ เพื่อความคุ้มครองชุดอุปกรณ์ตกแต่งนั้นด้วย หากไม่แจ้ง บริษัทฯ ประกัน จะคุ้มครองอุปกรณ์พื้นฐานที่ติดตั้งมาจากโรงงาน ตามที่ออกจากโรงงานเท่านั้น แต่กรณีที่มีการแต่งรถเพื่อเพิ่มความเร็ว เพื่อการแข่งขัน ถือเป็นการใช้รถผิดประเภทประกันจะไม่ให้ความคุ้มครองครับ
ค่าเสียหายส่วนแรก หรือค่า Deductible เป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้เอาประกันยินดีรับผิดชอบเมื่อมีการเคลมประกันในอุบัติเหตุที่เป็นฝ่ายผิดเอง เช่น ค่าเสียหายส่วนแรก 1,000 บาท เมื่อเกิดเหตุและมีความเสียหายเท่ากับหรือน้อยกว่า 1,000 บาท ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายเอง ทางประกันจะไม่ได้ชดเชยให้ แต่ถ้าค่าเสียหายในครั้งนั้นมากกว่า 1,000 บาท บริษัทประกันจะรับผิดชอบส่วนต่างที่เกินมาให้นั่นเอง
ง่าย ๆ เลยก็คือ ค่า Excess เป็นค่าใช้จ่ายที่ “บังคับเก็บ” ไม่ว่าคุณจะทำประกันชั้นไหน หรือบริษัทใดก็ตาม โดยกรณีที่เข้าข่ายโดนเก็บค่า Excess ก็คือ อุบัติเหตุที่ไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ ส่วนค่า Deductible เป็นค่าใช้จ่ายที่คุณยอมเสีย “แบบสมัครใจ” ทุกครั้งที่มีการเคลมในอุบัติเหตุ “ที่คุณเป็นฝ่ายผิด”
เมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ อย่างแรกให้ตั้งสติและโทรหาบริษัทประกันรถทันที เพื่อแจ้งเคลมกับทางเจ้าหน้าที่ โดยจะต้องบอกให้ละเอียดว่า เกิดเหตุขึ้นเมื่อไหร่ มีคู่กรณีหรือไม่ มีคนบาดเจ็บไหม หากมีหลักฐานกล้องวงจรปิดหรือพยานที่เห็นเหตุการณ์ ก็จะเป็นหลักฐานสำคัญในการเคลมประกันรถยนต์ของคุณได้ครับ
"ซ่อมอู่" คือคุณต้องนำรถเข้าซ่อมกับอู่ที่อยู่ในเครือของบริษัทประกัน (ไม่ต้องสำรองจ่าย) หรืออู่อื่นๆ ที่อยู่นอกเครือ (ต้องสำรองจ่าย) เท่านั้น
"ซ่อมห้าง (ศูนย์)" คุณสามารถนำรถเข้าซ่อมกับศูนย์บริการของยี่ห้อรถยนต์ของคุณที่อยู่ในเครือบริษัทประกันได้ด้วย ซึ่งปกติแล้วเบี้ยประกันแบบซ่อมห้าง (ศูนย์) จะแพงกว่าแบบซ่อมอู่
จริงๆ แล้วเบี้ยประกันสามารถลดได้ครับ ควรหมั่นเช็กเบี้ยประกันทุกปี สำหรับรถที่ไม่เคยมีการเคลมประกันเลยในช่วงปีแรก เบี้ยประกันในปีต่อไปจะลดลง อีกกรณีหนึ่งถ้ารถเกิดอุบัติเหตุแล้วคุณเป็นฝ่ายถูก บริษัทประกันจะเรียกเงินค่าเสียหายจากคู่กรณีได้ ก็ช่วยให้เบี้ยประกันในปีถัดไปลดลงเช่นกัน ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนบริษัทประกันภัยใหม่ โดยมีประวัติการขับรถดี ไม่มีการเคลมประกันเลย ก็สามารถนำไปลดเบี้ยประกันกับทางบริษัทประกันใหม่ได้เช่นกันครับ
ในส่วนของการเริ่มต้นความคุ้มครอง จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละกรมธรรม์ครับ
ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ หลังจากรถของคุณผ่านการพิจารณารับประกันภัย และตรวจสภาพจากบริษัทฯ เรียบร้อยแล้วเท่านั้น
ส่วนประกันรถยนต์ 2+,3+,3 และ พ.ร.บ. จะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ ตามวันที่ที่คุณระบุไว้ เช่น ระบุเป็นวันที่ 1 มกราคม 2566 จะเริ่มคุ้มครอง 1 มกราคม 2566 (เวลา 00.01 น.) และสิ้นสุดความคุ้มครอง 1 มกราคม 2567 (เวลา 16.30 น.)
เพราะ gettgo ทำให้การซื้อประกันเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบาย สามารถค้นหา เปรียบเทียบ และเลือกซื้อแบบประกันที่คุ้มค่าและเหมาะสมได้ด้วยตัวเอง มีช่องทางชำระเงินให้เลือกตามสะดวก และเลือกผ่อนชำระได้สูงสุดถึง 10 เดือน
กำลังดำเนินการ กรุณารอสักครู่ค่ะ 😊
บริษัท เมืองไทย โบรกเกอร์ จำกัด (“เรา”) ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ โดยการให้ความยินยอมนี้จะทำให้คุณได้รับข้อเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ที่ตอบสนองความต้องการของคุณโดยเฉพาะจากบริษัทในเครือเมืองไทย โบรกเกอร์และพันธมิตรทางธุรกิจของเรา
คุณยินยอมให้เราเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้แก่บริษัทในเครือเมืองไทย โบรกเกอร์และพันธมิตรทางธุรกิจของเรา เพื่อติดต่อในการนำเสนอและจัดให้มีผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมแก่คุณ รวมถึงวิเคราะห์ วิจัย พัฒนา ปรับปรุง และทำข้อมูลสถิติผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ดังกล่าว
กรุณา “กด” ลงบนกล่องข้อความเพื่อทำเครื่องหมาย หากคุณให้ความยินยอมแก่เราสำหรับการเปิดเผยข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดข้างต้น
คุณมีสิทธิถอดความยินยอมเมื่อใดก็ได้ โดยติดต่อเราที่ email : dpo-office@gettgo.com หรือช่องทางที่เราจะกำหนดในภายหน้า ทั้งนี้ โปรดศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เว็บไซต์ https://gettgo.com/privacy-policy
คุณสามารถเลือกให้หรือไม่ให้ความยินยอมโดยไม่มีผลต่อการพิจารณาผลิตภัณฑ์หรือบริการแก่คุณ
กรณีที่คุณไม่ให้ความยินยอมหรือถอนความยินยอมในภายหลัง คุณอาจจะพลาดโอกาสในการได้รับการติดต่อในการนำเสนอและจัดให้มีเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ที่ตอบสนองความต้องการของคุณโดยเฉพาะจากบริษัทในเครือเมืองไทย โบรกเกอร์และพันธมิตรทางธุรกิจของเรา
บริษัทในเครือเมืองไทย โบรกเกอร์รวมถึงบริษัท เมืองไทยประกันประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และบริษัทเมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)