ในยุคที่เอาแน่เอานอนกับโรคภัยไม่ได้ และไม่รู้เลยว่าในหนึ่งวันเราหายใจเอาอะไรเข้าไปบ้าง..
ไม่ว่าใครก็อยากได้รับสวัสดิการด้านสุขภาพที่มั่นคงใช่มั้ยคะ? ยิ่งเป็นพนักงานบริษัทด้วยแล้ว หากมีแค่ประกันสังคมก็คงไม่เพียงพออีกต่อไป ดังนั้น การมีสวัสดิการ “ประกันกลุ่ม” ของบริษัทเข้ามาเป็นทัพเสริมคอยเข้ามาช่วยจัดการด้านค่าใช้จ่ายแล้ว ยังสามารถใช้ร่วมกับประกันสังคมได้อีกด้วยค่ะ “ประกันกลุ่ม” จึงกลายเป็นอีกหนึ่งผู้พิทักษ์ที่ทำให้พนักงานบริษัทอย่างเราๆ อุ่นใจได้ไม่น้อย
ทำความรู้จัก “ประกันกลุ่ม” ให้มากขึ้น
ปัจจุบันบริษัทใหญ่ ๆ มักจะพ่วงมาด้วย “ประกันสุขภาพกลุ่ม” เป็นปกติอยู่แล้ว และลองคิดเล่น ๆ ว่าถ้าเราจะสมัครงานที่ไหนสักแห่งแล้วมีประกันกลุ่มให้ก็ถือว่าได้กำไรไป แต่ถ้าไม่มีก็กลายเป็นว่าเราขาดทุนด้านสวัสดิการส่วนนี้ไปฟรี ๆ เลยล่ะค่ะ
โดยการใช้สิทธิ์ “ประกันกลุ่ม” ก็ง่ายและสะดวกสบายสุด ๆ เพียงยื่นบัตรประกันกลุ่มกับบัตรประชาชนที่ รพ.ที่เลือกไว้ โดยความคุ้มครองและเงื่อนไขก็เป็นไปตามที่บริษัทนั้น ๆ เลือกไว้
อย่างกรณีเคสของคุณ Pripaipan จากรีวิวประกัน ที่เจ็บป่วยต้องนอน รพ. แต่ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นต้องผ่าตัด สามารถใช้สิทธิ์ควบระหว่างประกันสังคมกับประกันกลุ่มของบริษัทได้ ทำให้ได้ค่ารักษาพยาบาลแบบอยู่หมัด และได้รับการบริการที่ดีกว่าประกันสังคมอย่างเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าอัพเกรดประสบการณ์ที่ดีในการรักษาไปอีกขั้นนึงเลยค่ะ
อย่าเพิ่งชะล่าใจ มีประกันกลุ่มไว้ก็ใช่ว่าจะพอ
เนื่องจากแต่ละบริษัทมีวงเงินคุ้มครองของประกันกลุ่มที่แตกต่างกันออกไป บางที่ให้มาก บางที่ให้น้อย และร่างกายคนเราบางทีก็แข็งแรง บางทีก็ป่วยไม่เว้นแต่ละเดือนเช่นกัน เนื่องจากเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าใน 1 ปีจะป่วยเป็นอะไรบ้าง จะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมั้ย ต้องนอน รพ.กี่วัน ถึงขั้นต้องผ่าตัดรึเปล่า?
ตัวอย่าง หากเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ปีชงปีนี้ดันตรวจเจอนิ่วในถุงน้ำดีซะงั้น งานเข้าแน่เมื่อต้องผ่าตัดด่วน! gettgo ลองเสิร์ชค่ารักษาดูแล้วก็ขนลุก เพราะค่าใช้จ่ายสูงถึง 71,000 บาท ต้องนอนพักรักษาตัวที่ รพ.อย่างน้อย 3 วัน (ข้อมูลจาก รพ.ยันฮี) เพื่อน ๆ คิดว่าประกันสังคมกับประกันกลุ่มที่มีมัดรวมกันแล้วจะพอจ่ายหรือไม่? คำตอบคืออาจจะ “ไม่พอ” นะคะ
ในกรณีนี้ฮีโร่ขี่ม้าขาวเพียงหนึ่งเดียวที่จะช่วยได้ นั่นก็คือ “ประกันสุขภาพเพิ่มเติม” ที่จะเข้ามาช่วยคุ้มครองในส่วนเกินที่เพิ่มเติมจากประกันกลุ่มนั่นเองค่ะ โดยเพื่อน ๆ สามารถเลือกความคุ้มครองเพิ่มเติมต่าง ๆ ได้ เช่น IPD OPD ค่าห้อง คุ้มครองอุบัติเหตุ หรือลดหย่อนภาษี ฯลฯ เพียงเท่านี้ก็ไม่ต้องรบกวนเงินในกระเป๋าแล้วล่ะค่ะ (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
สรุปได้ว่า ความคุ้มครองจากประกันสังคมและประกันกลุ่มรวมกัน บางทีอาจพอจ่ายแค่ค่ายา ค่าหมอ อาจไม่เพียงพอในด้านอื่น ๆ ที่มีค่าใช้จ่ายสูงในหมื่นหลักแสนนั่นเองค่ะ หากใครอยากศึกษาเรื่องประกันสุขภาพเพิ่มเติม เราเคยเขียนไว้แล้ว เข้าไปอ่านได้เลยที่นี่ค่ะ อ่านบทความ “ประกันสุขภาพเพิ่มเติม” ได้ที่นี่
สุดท้ายใครตัดสินใจได้แล้วว่าจะจัดการความเสี่ยงในกรณีที่ประกันสังคม และประกันกลุ่มยังไม่พอ มาเลือกความคุ้มครองที่ใช่ได้เลยนะคะ คลิก
และต้องขอขอบคุณรีวิวดี ๆ ทุกประสบการณ์จริงจากรีวิวประกัน ที่แบ่งปันทุกเรื่องราวจากผู้ใช้จริงด้วยนะคะ สำหรับใครที่อยากศึกษาทุกรีวิวประสบการณ์ด้านประกัน สามารถอ่านต่อได้ที่นี่