เปิดข้อเท็จจริง รถยกสูงตามกฎหมายไทย ต้องแจ้งขนส่งไหม ?

เขียนวันที่ 27/11/2025 หมวดหมู่ ทุกเรื่องประกันรถยนต์

สรุปใจความสำคัญ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “รถยกสูง” กลายเป็นเทรนด์ยอดนิยมในกลุ่มผู้ใช้รถกระบะและ SUV เพราะนอกจากจะให้ดีไซน์ภายนอกที่ดูแข็งแกร่ง พร้อมลุยแล้ว ยังช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ในพื้นที่ทุรกันดารได้ดียิ่งขึ้น แต่ก่อนจะตัดสินใจดัดแปลงรถ ควรทำความเข้าใจข้อเท็จจริงด้านกฎหมาย ความปลอดภัย และผลต่อประกันภัยให้ครบถ้วน เพื่อให้ทุกสิ่งเป็นไปอย่างถูกต้อง ปลอดภัย และได้รับความคุ้มครองตามสิทธิจากบริษัทประกันภัยอย่างสมบูรณ์


รถยกสูงลุยน้ำได้ดีกว่ารถปกติ เพราะลดโอกาสที่ช่วงล่างจะได้รับความเสียหาย

ข้อดีของรถยกสูงมีอะไรบ้าง ?

แม้รถยกสูงจะถูกมองว่าเป็นความชอบส่วนบุคคล แต่แท้จริงแล้วมีข้อดีหลายด้านที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและความปลอดภัย ดังนี้

ขับรถยกสูงลุยน้ำหรือทางขรุขระได้ดีขึ้น

รถยกสูงจะมีระยะห่างระหว่างพื้นกับใต้ท้องรถมากขึ้น ทำให้สามารถขับรถยกสูงลุยน้ำท่วมขังหรือเส้นทางขรุขระได้โดยไม่ต้องกังวลว่าช่วงล่างหรือเครื่องยนต์จะได้รับความเสียหาย

ลดความเสี่ยงช่วงล่างจมน้ำหรือเสียหาย

การยกรถช่วยให้ชิ้นส่วนสำคัญอย่างท่อไอเสีย โช้คอัพ และระบบเบรกอยู่ในระดับที่ปลอดภัยจากน้ำหรือตะกอนบนพื้นถนน ลดการกัดกร่อนและความเสียหายต่อระบบช่วงล่างในระยะยาว

มุมมองทัศนวิสัยดีขึ้น

รถยกสูงให้มุมมองที่กว้างขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นรถหรือสิ่งกีดขวางด้านหน้าได้ชัดเจน นอกจากนี้ ยังช่วยให้มองเห็นสภาพการจราจรได้ในระยะไกล ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

ดีไซน์โดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

รถที่ยกสูงมักมีลุคออฟโรดดุดัน ช่วยให้รถดูแข็งแรงและมีมิติขึ้น ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการความแตกต่างและสะท้อนบุคลิกของเจ้าของรถได้ชัดเจน เหมาะสำหรับคนที่ชอบแต่งรถสายลุย

ติดตั้งยางขนาดใหญ่ได้

การยกรถสูงทำให้มีพื้นที่สำหรับติดตั้งยางขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนและเสริมความมั่นคงในการขับขี่ โดยเฉพาะเมื่อขับบนพื้นผิวขรุขระหรือถนนลื่น

ข้อจำกัดของรถยกสูงที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจปรับเปลี่ยนดีไซน์ของรถ

แม้รถยกสูงจะให้ประโยชน์หลายด้าน ทั้งในแง่ความสวยงามและสมรรถนะ แต่การดัดแปลงช่วงล่างให้สูงขึ้นย่อมมีผลข้างเคียงตามมาเช่นกัน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจยกรถ ควรทำความเข้าใจข้อจำกัดเหล่านี้ให้รอบด้าน

อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น

เนื่องจากตัวรถสูงขึ้นและมีแรงต้านลมมากกว่าเดิม เครื่องยนต์จึงต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการขับเคลื่อน นอกจากนี้ การติดตั้งยางขนาดใหญ่และน้ำหนักตัวรถที่เพิ่มขึ้นยังทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากกว่าเดิม

เข้าอาคารจอดรถบางแห่งไม่ได้

เช่น อาคารสำนักงานหรือห้างสรรพสินค้า ซึ่งมักกำหนดความสูงไม่เกิน 2.1 เมตร เจ้าของรถจึงควรตรวจสอบระดับความสูงของรถหลังดัดแปลงก่อนเข้าพื้นที่

การทรงตัวอาจเปลี่ยนไป

การยกรถทำให้จุดศูนย์ถ่วงของรถสูงขึ้น ส่งผลให้รถโคลงหรือเอนตัวมากขึ้นเมื่อเข้าโค้งหรือเบรกกะทันหัน หากไม่ได้ตั้งศูนย์รถยกสูงให้เหมาะสม อาจทำให้รถเสียการทรงตัวได้ง่าย

ค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาสูงขึ้น

การยกรถสูงต้องใช้ชิ้นส่วนเสริม เช่น โช้คอัพ คาน หรือยางขนาดใหญ่ ซึ่งมีราคาสูงและสึกหรอเร็วกว่าปกติ อีกทั้งยังต้องตั้งศูนย์ล้อและตรวจเช็กช่วงล่างบ่อยครั้ง เพื่อคงประสิทธิภาพการขับขี่ให้ปลอดภัย

หากยกเกินกำหนดถือว่าผิดกฎหมาย

การยกรถเกินความสูงที่กฎหมายกำหนดอาจถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ และมีโทษปรับตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522

ต้องยกสูงเท่าไรจึงจะถือว่าไม่ผิดกฎหมาย ?

พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 และระเบียบกรมการขนส่งทางบก ว่าด้วยหลักเกณฑ์การขออนุญาตและการอนุญาตให้ใช้รถที่ทำการแก้ไขเพิ่มเติมหรือดัดแปลง พ.ศ. 2562 ไม่ได้ระบุระดับความสูงของรถที่ถือว่าผิดกฎหมายไว้โดยตรง แต่ได้กำหนดหลักเกณฑ์สำคัญว่า “การดัดแปลงรถทุกกรณี ต้องไม่ทำให้สภาพหรือคุณสมบัติของรถแตกต่างจากมาตรฐานความปลอดภัย และต้องผ่านการตรวจสภาพจากกรมการขนส่งทางบกก่อนใช้งานจริง”

ดังนั้น เจ้าของรถที่ต้องการยกสูงสามารถทำได้ หากดำเนินการโดยวิศวกรหรือช่างผู้เชี่ยวชาญที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ พร้อมทั้งนำรถไปตรวจสภาพและแก้ไขข้อมูลในเล่มทะเบียนให้ถูกต้อง

แต่หากยกสูงเกินความเหมาะสมจนกระทบต่อระบบรองรับน้ำหนัก ทัศนวิสัย หรือระดับโคมไฟหน้า รถอาจไม่ผ่านการตรวจสภาพ และเจ้าของอาจถูกปรับตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522

ในการทำรถยกสูง ต้องดำเนินการโดยวิศวกรหรือช่างผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

ทำรถยกสูง ต้องแจ้งขนส่งไหม ?

ต้องแจ้ง เนื่องจากการยกสูงถือเป็นการดัดแปลงระบบรองรับน้ำหนักของรถ เจ้าของรถจึงต้องขออนุญาตและจดทะเบียนรถยกสูง โดยการขอเอกสารรับรองจากวิศวกรที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ จากนั้นให้นำไปยื่นที่กรมการขนส่งทางบกเพื่อแก้ไขรายละเอียดในเล่มทะเบียนรถ หากไม่แจ้งการดัดแปลงตามกฎหมาย จะมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522

ทำรถยกสูงมีผลต่อประกันภัยหรือไม่ ?

ประเด็นนี้สำคัญมากสำหรับผู้ใช้รถยกสูง เพราะประกันภัยรถยนต์จะพิจารณาความคุ้มครองจากลักษณะรถที่จดทะเบียนไว้จริง หากยกรถสูงโดยไม่แจ้งกรมการขนส่งทางบก หรือไม่มีใบรับรองจากวิศวกร การดัดแปลงดังกล่าวถือว่าผิดกฎหมาย บริษัทประกันภัยมีสิทธิปฏิเสธความคุ้มครองในกรณีเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากรถไม่ได้อยู่ในสภาพที่ผ่านการรับรอง

ในทางกลับกัน หากมีการจดทะเบียนรถยกสูงถูกต้องตามกฎหมาย ประกันภัยก็จะยังคงคุ้มครองตามปกติ ทั้งประกันภัยชั้น 1, ชั้น 2+, ชั้น 3+ หรือประเภทอื่น ๆ

ขับรถยกสูงได้สบายใจ เมื่อมีประกันภัยที่คุ้มครองทุกเส้นทาง

สรุปแล้ว การยกรถสูงสามารถทำได้ หากอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ของกรมการขนส่งทางบก และผ่านการตรวจสภาพอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่แล้ว ยังเป็นการป้องกันปัญหาทางกฎหมายและความคุ้มครองของประกันภัยในอนาคตด้วย

ไม่ว่าจะขับรถยกสูงลุยน้ำหรือรถโหลดเตี้ยสไตล์สปอร์ต ก็สามารถอุ่นใจได้ทุกเส้นทาง ด้วยประกันภัยรถยนต์จาก gettgo โบรกเกอร์ชั้นนำที่รวบรวมแผนประกันจากบริษัทประกันภัยชั้นนำไว้ในที่เดียว เลือกได้ทั้งประกันชั้น 1, 2+, 3+ หรือ 3 พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง และผ่อนชำระ 0% สูงสุด 10 เดือน

ค้นหาแผนที่เหมาะกับคุณและเช็กเบี้ยประกันภัยรถยนต์ออนไลน์ได้เลยวันนี้ที่เว็บไซต์ของเรา เพื่อให้ทุกการขับขี่มั่นใจ ปลอดภัย และถูกกฎหมาย สอบถามเพิ่มเติมผ่าน LINE OA: @gettgo หรือโทร. 02-111-7800

ประกันรถยนต์ออนไลน์ Gettgo คุ้มครองครบครัน ทุกยี่ห้อ สมัครง่าย เคลมเร็ว

ข้อมูลอ้างอิง

  1. พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๒๒. สืบค้นเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 จาก https://www.otp.go.th/uploads/tiny_uploads/Laws/TrasportLaws/Laws-2/law-1.pdf.
  2. ระเบียบกรมการขนส่งทางบก. สืบค้นเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 จาก https://www.dlt-inspection.info/dlt/cl/pdfuploads/2019_10_02_09_43_58.pdf.
บทความที่คุณอาจสนใจ