ในยุคเศรษฐกิจที่ผันผวน การวางแผนการเงินอย่างชาญฉลาดถือเป็นสิ่งสำคัญ ด้วยเหตุนี้ หลายคนจึงมองหาวิธีที่จะช่วยลดภาระทางการเงินและภาษี โดยหนึ่งในวิธียอดนิยมที่สุดก็คือ “การทำประกันลดหย่อนภาษี” ที่ไม่เพียงแต่ให้ความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ แต่ยังสามารถนำเบี้ยประกันบางส่วนไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย ดังนั้น สำหรับใครที่สนใจในแนวทางนี้ เราจะมาสรุปข้อสงสัยกันว่า การทำประกันลดหย่อนภาษีได้เท่าไร และมีเงื่อนไขอะไรบ้าง เพื่อให้คุณวางแผนภาษีได้อย่างฉลาดรอบคอบ ติดตามได้เลย
ทำไมต้องทำประกันเพื่อลดหย่อนภาษี ?
- - ช่วยคุ้มครองความเสี่ยง : การทำประกันประเภทต่าง ๆ จะช่วยปกป้องคุณและครอบครัวจากความเสี่ยงที่ไม่คาดคิด ไม่ว่าจะเป็นโรคร้ายแรง อุบัติเหตุ หรือแม้กระทั่งการเสียชีวิต ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้และความเป็นอยู่อย่างมาก ด้วยเหตุนี้ การมีประกันจะช่วยรับรองว่าคุณและครอบครัวจะได้รับความคุ้มครองทางการเงินที่เพียงพอ เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เหล่านี้
- - สร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว : เงินที่ได้จากกรมธรรม์ประกันภัยสามารถนำมาใช้จ่ายสำหรับค่ารักษาพยาบาล ค่าเล่าเรียนของบุตรหลาน หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในอนาคต ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาระทางการเงินให้แก่ครอบครัวได้เป็นอย่างดี
- - ลดหย่อนภาษี : การทำประกันบางประเภท เช่น ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือประกันบำนาญ สามารถนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณประหยัดภาษี และมีเงินเหลือไว้ใช้จ่ายในด้านอื่น ๆ มากขึ้นด้วย
ดังนั้น การซื้อประกันลดหย่อนภาษีจึงเป็นตัวช่วยให้ผู้ทำประกันสามารถประหยัดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้มากขึ้น โดยสามารถนำเบี้ยประกันที่จ่ายไปตามเงื่อนไขและวงเงินที่กำหนด มาหักลดหย่อนภาษีประจำปีได้ ส่งผลต่อการเพิ่มกำลังในการออมและบริหารการเงินส่วนบุคคลได้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขของแต่ละกรมธรรม์ให้ดี เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการทำประกัน
ประกันประเภทไหนที่ลดหย่อนภาษีได้บ้าง ลดได้เท่าไร ?
ประกันชีวิต
สำหรับประกันชีวิตนั้น แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- - ประกันชีวิตทั่วไป : ให้ความคุ้มครองชีวิตแก่ผู้เอาประกัน ซึ่งสามารถนำเบี้ยประกันภัยมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000 บาทต่อปี
- - ประกันชีวิตแบบบำนาญ : มอบความคุ้มครองในรูปแบบรายได้หลังเกษียณ โดยสามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี
ประกันสุขภาพ
ในส่วนของประกันสุขภาพ ก็แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ ประกันสุขภาพตนเอง ที่สามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพไปลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท, ประกันสุขภาพพ่อแม่ และประกันสุขภาพคู่สมรส ที่ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงเช่นกัน แต่สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท
การทำประกันชีวิตและสุขภาพ นอกจากจะได้รับความคุ้มครองแล้ว ยังถือเป็นการวางแผนภาษีที่ดี ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้เบาบางลง อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจซื้อประกันลดหย่อนภาษี ควรศึกษารายละเอียด เงื่อนไขความคุ้มครอง และข้อยกเว้นให้ถี่ถ้วน พิจารณาให้รอบคอบว่าแบบประกันที่เลือกนั้นเหมาะสมกับความต้องการ วัย และรูปแบบการใช้ชีวิตของเรามากน้อยแค่ไหน
นอกจากนั้น สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักว่าการทำประกันไม่ใช่การลงทุน แต่เป็นการป้องกันความเสี่ยงในอนาคต ดังนั้น อย่ามองข้ามความคุ้มครองเพื่อแลกกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพียงอย่างเดียว ประกันลดหย่อนภาษีที่ดีควรให้ความคุ้มครองที่เพียงพอและคุ้มค่า ตอบโจทย์ความต้องการของผู้เอาประกันเป็นหลัก โดยสิทธิประโยชน์ทางภาษีถือเป็นผลพลอยได้ที่ได้รับเพิ่มเติม
ซื้อประกันสุขภาพเพื่อลดหย่อนภาษี เริ่มต้นที่ gettgo
จากข้อมูลข้างต้น ประกันสุขภาพนอกจากจะช่วยเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาสุขภาพโรคภัยต่าง ๆ แล้ว ยังสามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย ดังนั้น อย่ารอช้า มาเลือกซื้อประกันสุขภาพได้เลยที่ gettgo ซื้อง่าย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ สมัครง่าย 5 นาทีเสร็จ ช่วยคุ้มครองโรคร้ายแรงต่าง ๆ ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น จนถึงระยะรุนแรง หรือโรคร้ายแรงยอดฮิต และคุณเองก็สามารถเลือกแผนประกัน ปรับแต่งความคุ้มครองได้ตามความพอใจ สามารถเช็กเบี้ยประกันหรือซื้อออนไลน์ได้เลย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-111-7800 หรือ LINE OA : @gettgo
ข้อมูลอ้างอิง
- หมวดค่าลดหย่อนประกันชีวิต/ประกันชีวิตแบบบำนาญ/ประกันสุขภาพ. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 จาก https://www.rd.go.th/60058.html