หากคุณต้องประสบกับอุบัติเหตุทางถนน หรืออุบัติเหตุส่วนบุคคล รวมไปถึงมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ เจ็บป่วย ไม่สบาย และต้องการเคลมประกันของตนเอง แต่ไม่แน่ใจว่าควรจะต้องทำอย่างไรดี เรามีวิธีการเคลมประกันแบบจบครบ ทั้งประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ และประกันภัยอื่น ๆ รวมถึงในกรณีเสียชีวิตมาบอกกัน ในปัจจุบันมีวิธีการเคลมประกันอยู่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการโทรหาสายด่วนเพื่อติดต่อขอเคลมประกัน หรือเคลมประกันออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของบริษัทประกันภัย โดยจะมีขั้นตอนและเอกสารที่ต้องใช้อะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย
เข้าใจความหมายของการเคลมประกัน
การเคลมประกัน คือการแจ้งขอรับค่าสินไหมชดเชย ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมแซมรถยนต์ เงินชดเชยรายได้ เงินชดเชยกรณีเสียชีวิต และอื่น ๆ ซึ่งจะมีรายละเอียดแตกต่างกันไปในแต่ละประเภทของประกัน และสิทธิตามที่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์ โดยผู้เอาประกันหรือผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จะต้องยื่นเอกสารแสดงหลักฐานต่าง ๆ ต่อบริษัทประกันภัย เพื่อขอรับเงินชดเชยเหล่านั้น
คู่มือการเคลมประกันแต่ละประเภท
เคลมประกันรถยนต์
สำหรับประกันรถยนต์จะแบ่งวิธีการเคลมออกเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้
- การเคลมประกันรถยนต์แบบมีคู่กรณี เป็นการเคลมประกันแบบทันทีในที่เกิดเหตุ โดยมีขั้นตอนคือ
- โทรแจ้งไปยังสายด่วนของบริษัทประกันภัย
- เตรียมเอกสารไว้ให้พร้อม ได้แก่ บัตรประชาชน ใบขับขี่ กรมธรรม์ และเล่มทะเบียนรถยนต์ ระหว่างรอตัวแทนของบริษัทประกันเดินทางมายังที่เกิดเหตุ
- ยื่นเอกสารให้แก่เจ้าหน้าที่ และรอเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ในกรณีที่เป็นฝ่ายผิด เจ้าของรถยนต์ต้องเช็กด้วยว่าในกรมธรรม์ระบุให้จ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) ให้แก่คู่กรณีก่อนด้วยหรือไม่ ถ้ามีต้องจ่ายไปตามแต่ที่ตกลงไว้กับทางบริษัทประกัน
- หลังจากประเมินค่าเสียหายแล้ว เจ้าหน้าที่จะออกใบเคลมมาให้เจ้าของรถยนต์ เพื่อนำรถไปซ่อมที่ศูนย์บริการหรืออู่ในเครือของบริษัทประกัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
- ในส่วนของคู่กรณีจะมีการจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนภายใน 15 วัน หลังจากมีการตกลงค่าสินไหม และการเคลมประกันได้รับการอนุมัติ ทั้งนี้ ระยะเวลาขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทประกันด้วย
- การเคลมประกันรถยนต์แบบไม่มีคู่กรณี เป็นการเคลมประกันรถยนต์หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ไประยะหนึ่ง ซึ่งไม่ควรปล่อยไว้เกิน 2-3 วัน โดยขั้นตอนคือ
- ถ่ายรูปจุดเกิดเหตุ ความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ตัวรถยนต์ เก็บไว้เป็นหลักฐาน รวมถึงบันทึกเวลาและสถานที่ไว้ให้ชัดเจน
- ติดต่อไปยังบริษัทประกันภัย เพื่อแจ้งความเสียหายและนัดหมายตรวจสภาพรถยนต์
- ระหว่างรอตรวจสภาพรถยนต์ให้เจ้าของเตรียมเอกสารที่ต้องใช้ในการเคลม ได้แก่ บัตรประชาชน ใบขับขี่ กรมธรรม์ และเล่มทะเบียนรถยนต์ ไว้ให้พร้อม
- เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางมาตรวจสภาพรถยนต์แล้ว ต้องไม่ลืมยื่นเอกสารที่เตรียมไว้ให้แก่เจ้าหน้าที่ด้วย
- ในการเคลมประกันรูปแบบนี้ อาจมีการชำระค่าใช้จ่ายส่วนแรกก่อน ขึ้นอยู่กับข้อตกลงกับบริษัทประกัน
- เจ้าหน้าที่จะประเมินค่าเสียหาย แล้วออกใบเคลมมาให้ เพื่อให้เจ้าของรถยนต์นำรถไปซ่อมที่ศูนย์บริการหรืออู่ในเครือของบริษัทประกัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
เคลมประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล
เป็นการเคลมประกันเมื่อผู้เอาประกันได้รับอุบัติเหตุ โดยจะเป็นการชดเชยในส่วนค่ารักษาพยาบาล และค่าบริการทางการแพทย์ต่าง ๆ รวมถึงค่าชดเชยในกรณีที่ขาดรายได้จากการพักรักษาตัว ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับรายละเอียดที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ของแต่ละคนด้วย สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กรณี ดังนี้
- กรณีรักษาแบบผู้ป่วยนอก
- ให้ผู้ป่วยหรือญาติ ยื่นบัตรประกันและบัตรประชาชน ให้เจ้าหน้าที่ตรงเคาน์เตอร์ติดต่อของโรงพยาบาล
- เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลและแจ้งสิทธิให้แก่ผู้ป่วยทราบเบื้องต้น
- ผู้ป่วยเข้ารับการรักษากับทางโรงพยาบาล จากนั้นจะได้รับเอกสารค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้นำไปติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน
- หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะให้ผู้ป่วยเซ็นชื่อในใบเคลม รวมถึงใบแสดงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อส่งไปยังบริษัทประกันต่อไป
- ในกรณีที่ค่ารักษาพยาบาลเกินวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ผู้ป่วยต้องชำระค่าใช้จ่ายส่วนเกินเอง
- หากโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษาอยู่นอกสัญญา หรือนอกเครือข่ายของบริษัทประกัน ผู้ป่วยจะต้องนำใบเสร็จและใบรับรองแพทย์ไปยื่นเคลมประกันเอง ซึ่งสามารถยื่นได้ผ่านทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือตัวแทนของบริษัทประกัน ซึ่งจะได้รับเงินเคลมในระยะเวลา 15-30 วัน ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทประกัน
- กรณีรักษาแบบผู้ป่วยใน
- ให้ผู้ป่วยหรือญาติ ยื่นบัตรประกันและบัตรประชาชน ให้เจ้าหน้าที่ตรงเคาน์เตอร์ติดต่อของโรงพยาบาล
- เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจะนำเอกสารเคลมพร้อมสำเนาการใช้สิทธิมาให้ผู้ป่วยเซ็น
- หลังจากเข้ารับการรักษาตัวเรียบร้อยแล้ว ในวันที่กลับบ้าน เจ้าหน้าที่การเงินจะสรุปค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และนำส่งให้แก่ทางบริษัทประกัน โดยผู้ป่วยจำเป็นต้องชำระค่ารักษาพยาบาลส่วนเกิน หรือส่วนที่ไม่ได้คุ้มครองด้วยตนเอง
เคลมประกันสุขภาพ
เป็นการเคลมประกันเมื่อผู้เอาประกันมีอาการเจ็บป่วยไม่สบายจากโรคภัยต่าง ๆ และเข้ารับการรักษากับทางโรงพยาบาล ซึ่งจะมีทั้งที่ครอบคลุมกรณีผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก หรือคุ้มครองในกรณีผู้ป่วยนอกอย่างเดียว โดยมีขั้นตอน ดังนี้
- กรณีรักษาแบบผู้ป่วยนอก
- ผู้ป่วยหรือผู้ติดตามแสดงบัตรประกันและบัตรประชาชน ให้เจ้าหน้าที่ตรงเคาน์เตอร์ติดต่อของโรงพยาบาล
- เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและแจ้งสิทธิให้แก่ผู้ป่วยได้รับทราบเบื้องต้น
- ผู้ป่วยเข้ารับการตรวจรักษาจากแพทย์จนแล้วเสร็จ หลังจากนั้นจะได้รับเอกสารค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้นำไปติดต่อที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน
- เจ้าหน้าที่จะให้ผู้ป่วยเซ็นชื่อในใบเคลม รวมถึงใบแสดงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อส่งไปยังบริษัทประกันต่อไป
- หากค่ารักษาพยาบาลเกินวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ผู้ป่วยจำเป็นต้องชำระค่าใช้จ่ายส่วนเกินเอง
- กรณีที่รับการรักษาในโรงพยาบาลอยู่นอกสัญญา หรือนอกเครือข่ายบริษัทประกัน ทางโรงพยาบาลจะออกเป็นใบเสร็จและใบรับรองแพทย์มาให้ ซึ่งผู้ป่วยต้องนำไปยื่นเคลมประกันเอง โดยสามารถยื่นได้ผ่านทางแอปพลิเคชันของบริษัทประกัน หรือกับตัวแทนของบริษัทประกัน ทั้งนี้ได้รับเงินเคลมในระยะเวลา 15-30 วัน ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทประกัน
- กรณีรักษาแบบผู้ป่วยใน
- ให้ผู้ป่วยหรือญาติ ยื่นบัตรประกันและบัตรประชาชน ให้เจ้าหน้าที่ตรงเคาน์เตอร์ติดต่อของโรงพยาบาล
- เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจะนำเอกสารเคลม เอกสารรับรองการใช้สิทธิมาให้ผู้ป่วยเซ็น
- เมื่อได้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว วันที่กลับบ้าน เจ้าหน้าที่การเงินจะทำสรุปค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล เพื่อนำส่งให้แก่ทางบริษัทประกัน
- ในกรณีที่มีค่ารักษาพยาบาลส่วนเกิน หรือส่วนที่ไม่ได้คุ้มครอง ผู้ป่วยจำเป็นต้องชำระค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง
เคลมประกันชีวิต
การเคลมประกันในกรณีเสียชีวิต ผู้ที่มีสิทธิรับสินไหมชดเชย จะเป็นบุคคลผู้รับประโยชน์ที่เจ้าของกรมธรรม์ได้ระบุไว้ โดยมีเอกสารที่ต้องใช้ในการเคลมประกัน คือ
- สำเนาใบมรณบัตรของผู้เอาประกัน พร้อมเซ็นรับรองสำเนาโดยผู้รับผลประโยชน์ หรือเจ้าหน้าที่ทะเบียน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขบริษัท สำเนารายงานชันสูตรพลิกศพ หรือรายงานผ่าพิสูจน์ศพ พร้อมเซ็นรับรองสำเนาโดยเจ้าหน้าที่
- สำเนาบันทึกประจำวันของตำรวจ รับรองโดยร้อยเวรเจ้าของคดี
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เอาประกันภัย และสำเนาทะเบียนบ้านที่ประทับ “ตาย” โดยเจ้าหน้าที่อำเภอหรือเขต พร้อมเซ็นรับรองสำเนาโดยผู้รับผลประโยชน์
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับผลประโยชน์ พร้อมเซ็นรับรองสำเนา
ในส่วนของขั้นตอนการเคลมประกันในกรณีเสียชีวิต มีดังนี้
- จัดเตรียมเอกสารข้างต้นให้พร้อม
- กรอกเอกสารในแบบฟอร์ม เพื่อยื่นขอเคลมประกันผ่านทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือตัวแทนของบริษัทประกัน
- รอรับการอนุมัติและรับเงินชดเชย โดยจะใช้เวลาประมาณ 7 วันทำการ หลังจากการยื่นและตรวจสอบเอกสาร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทประกัน
ทั้งหมดนี้ คือวิธีในการเคลมประกันที่เราได้นำมาบอกกัน ทั้งนี้ขั้นตอนและระยะเวลาในการเคลมประกันยังขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทประกันอีกด้วย และเมื่อศึกษาขั้นตอนการเคลมต่าง ๆ จนมั่นใจแล้ว มาเลือกซื้อประกันสุขภาพเป็นของตนเอง หรือให้คนที่คุณรัก ผ่านช่องทางออนไลน์กับ gettgo ได้เลย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-111-7800 หรือ LINE OA : @gettgo
ข้อมูลอ้างอิง
- เคลมประกันรถยนต์ ต้องทำอย่างไร มีขั้นตอนอะไรบ้าง. สืบค้นเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2567 จาก https://www.fordrma.com/car-insurance-claims-process/
- เคลมประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุ. สืบค้นเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2567 จาก https://chureevetch.com/เคลมประกันสุขภาพ/
- มีประกันสุขภาพหลายฉบับ เคลมยังไง?. สืบค้นเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2567 จาก https://reviewprakan.com/blog/Howtoclaim