ตื่นเช้ามาก็กลายเป็นยุคข้าวยากหมากแพงไปซะแล้ว แถมวิกฤตโควิดก็ถาโถมซะเหลือเกิน จะให้ใช้เงินชิลล์ ๆ เหมือนแต่ก่อนคงไม่ไหว
อยาก ‘ใช้เงินเป็น’ เลือกซื้อประกันชีวิตสุขภาพแบบไหนดี ?
วันนี้เรามาไข #ปัญหาประกัน พลิกวิกฤตพิชิตความเสี่ยงกันดีกว่า เห็นหลายคนร้อนรนใจ เริ่มมองหาประกันชีวิตสุขภาพกันมากขึ้น ชีวิตยิ่งเสี่ยง ใคร ๆ ก็อยากมีฟูกนุ่มไว้รองรับกันทั้งนั้น แต่ปัญหาก็คือไม่รู้ว่าควรทำประกันสุขภาพที่ไหนดี จะเลือกแผนไหนให้เข้ากับฉบับ ‘คนใช้เงินเป็น’ ดีล่ะ ? โดยเราแบ่งง่าย ๆ ตามกลุ่ม 2 อาชีพหลัก ดังนี้
1. พนักงานบริษัททั่วไป
• มีสวัสดิการอย่างประกันกลุ่มอยู่แล้ว แนะนำให้พุ่งตัวไปเลือกประกันชีวิตสุขภาพ ครบ จบในแผนเดียวไปเลย
• โดยเลือกแผนที่มีค่ารับผิดส่วนแรก หรือ deductible ไว้ก่อนยิ่งดี เพราะจะช่วยเซฟค่าเบี้ยได้ถึง 20-30% เลยด้วย (อ่านบทความเพิ่มเติม คลิก) โดยเงินก้อนแรกเราเป็นคนจ่ายไปก่อน ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกค่ารับผิดส่วนแรกกี่บาท เช่น 20,000 หรือ 30,000 เป็นต้น และบาทถัดไปหลังจากจ่ายก้อนแรกไปแล้วก็สบายหายห่วง เพราะประกันเค้าจะดูแลต่อให้เอง
2. ฟรีแลนซ์ (อาชีพอิสระต่าง ๆ )
• ไม่มีสวัสดิการใด ๆ ต้องแบกค่าใช้จ่ายเวลาไปหาหมอเต็ม ๆ แบบนี้แนะนำให้รีบวิ่งไปซบอก ‘ประกันเหมาจ่าย’ แบบด่วน ๆ
• ขึ้นชื่อว่าประกันเหมาจ่ายยังไงก็คุ้มกว่า อีกทั้งไม่หลุดตีม ‘คนใช้เงินเป็น’ อีกด้วย โดยเริ่มที่เช็กตัวเองก่อนว่าป่วยบ่อยรึเปล่า ? หากป่วยบ่อย ก็ควรเลือกวงเงินสูงไว้ก่อน (ค่าเบี้ยก็จะสูงตามนะ) แต่หากป่วยหนักขึ้นมา รับรองว่าไม่เดือดร้อนแน่นอน หรือดูที่โรงพยาบาลที่ตัวเองเข้าประจำ ถ้าปกติเข้ารพ. เกรด A ก็ต้องเบี้ยสูงหน่อย วงเงินสูง แต่ยุคนี้ ถ้าตัดได้ตัด เลือกรพ. เกรดรองลงมา ทำให้วงเงินที่ต้องการต่ำลงมา แต่ยังรักษาได้เหมือนกัน ก็น่าสนนะ เชื่อเถอะ หมอไทยเก่งอยู่แล้ว
• หรือหากรู้ตัวเองว่านาน ๆ ป่วยทีนึง ก็เลือกวงเงินต่ำลงมาเท่าที่จำเป็นได้อีก คราวนี้ค่าเบี้ยก็จะถูกลงมาตามความคุ้มครองที่เราต้องการ โดยประกันเหมาจ่ายค่าเบี้ย (ต่อปี) เริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาทเป็นต้นไป ผ่อนจ่ายรายเดือนก็เพียงหลักพัน เผลอๆ หลักร้อยเกือบพันต่อเดือนยังมี รับรองจ่ายสบาย ๆ
สุดท้าย ขอย้ำนิดว่า ค่าเบี้ยจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับอายุและเพศ เอาเป็นว่าใครอยู่ในกลุ่มไหน ก็เช็กประกันชีวิตสุขภาพฉบับ “คนใช้เงินเป็น” ได้ง่าย ๆ ครับ