สำหรับใครที่กำลังวางแผนอยากมีลูก #getttrick วันนี้มีทริคดี ๆ ในการเลือกซื้อประกันที่ใช่มาฝากกันค่ะ
ปัจจุบันมีแผนประกันให้เลือกเยอะแยะเต็มไปหมด หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าประกันสุขภาพไม่ได้คุ้มครองแค่เฉพาะยามเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุแต่อย่างใด แต่ยังมีแผนประกันที่คุ้มครองด้าน “การคลอดบุตร” โดยเฉพาะอีกด้วยล่ะค่ะ
แผนประกันที่คุ้มครองด้านการคลอดบุตร ต้องยอมรับเลยว่ากำลังเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับใครที่แต่งงานแล้วและวางแผนจะมีเบบี๋สักคน เนื่องจากการมีลูก 1 คนนั้นมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างเยอะ เมื่อลูกน้อยลืมตามาดูโลกแล้วค่าใช้จ่ายที่จะตามมาหลัก ๆ เฉลี่ยต่อปีประมาณ 100,000 บาทขึ้นไป นับว่าค่อนข้างสูงเลยล่ะค่ะ
ซื้อประกันแบบไหนที่ใช่สำหรับการตั้งครรภ์
อย่าลืมว่าการซื้อแผนประกันสำหรับการวางแผนมีลูกนั้นต้องซื้อก่อนตั้งครรภ์เท่านั้นนะคะ โดยแต่ละแผนประกันจะมีระยะเวลารอคอยที่แตกต่างกันไป เช่น 360 วัน 280 วัน หรือ 120 วัน เป็นต้น มาดูกันว่าหากจะเลือกแผนประกันสักแผน สำหรับการเตรียมพร้อมก่อนเป็นคุณแม่ ต้องดูจุดไหนเป็นพิเศษบ้าง ?
1. ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล
• ค่าใช้จ่ายในการคลอดบุตร
ซึ่งมีการคลอดบุตรมีทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่ คลอดแบบผ่าคลอดและคลอดแบบธรรมชาติ ตัวอย่างค่ารักษา เช่น โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มีค่าใช้จ่ายคลอดเองอยู่ที่ 95,000 บาท และผ่าคลอดอยู่ที่ 149,000 บาท
• ค่าห้อง
ควรเลือกให้ครอบคลุมสำหรับการคลอดทั้ง 2 แบบข้างต้น สำหรับคุณแม่ที่คลอดแบบธรรมชาติ หากเบ่งคลอดง่าย ไม่มีภาวะแทรกซ้อน จะทำให้ฟื้นตัวเร็วกว่าปกติ พักฟื้นที่ รพ.ประมาณ 2 คืนก็กลับบ้านได้ค่ะ ส่วนคุณแม่ที่คลอดแบบผ่าคลอดอาจรู้สึกเจ็บปวดจากแผลผ่าตัดอยู่ จึงต้องพักฟื้นที่ รพ.ประมาณ 3-4 วัน ซึ่งจะนานกว่าการคลอดแบบธรรมชาตินั่นเองค่ะ
• ค่ารักษาพยาบาล เช่น ค่าอาหาร ค่าบริการ ค่ายากลับบ้าน
2. ความคุ้มครองขณะตั้งครรภ์
เนื่องจากการตั้งครรภ์มีความเสี่ยงหลายอย่างที่ต้องระวังทั้งด้านอุบัติเหตุ ภาวะตั้งครรภ์ที่อาจมีภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมาได้ มีจุดสำคัญที่ว่าที่คุณแม่ต้องเล็งเห็นหลัก ๆ ดังนี้
• ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายค่าขูดมดลูกกรณีแท้งบุตร
• การผ่าตัดรักษาเนื่องจากภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก
• ค่ารักษาพยาบาลลูกในท้องหากคุณแม่ได้รับอุบัติเหตุ
3. ความคุ้มครองคุณแม่และลูกน้อยหลังคลอด
ช่วงหลังคลอด คุณแม่ยังคงต้องพักฟื้นเป็นระยะเวลาประมาณ 6-8 สัปดาห์ และอาจมีภาวะแทรกซ้อนหลังคลอดเกิดขึ้นได้เนื่องจากร่างกายยังไม่แข็งแรงเป็นปกตินั่นเองค่ะ โดยมีความคุ้มครองหลัก ๆ ดังนี้
• ความคุ้มครองกรณีภาวะแทรกซ้อนก่อนและหลังการตั้งครรภ์
• ความคุ้มครองกรณีคุณแม่เสียชีวิตภายหลังการคลอดบุตร
• ความคุ้มครองกรณีทารกที่มีชีวิตอยู่อย่างน้อย 28 วัน นับแต่วันคลอด และได้รับการวินิจฉัยว่ามีโรคประจำตัวแต่กำเนิด ได้แก่ ดาวน์ซินโดรม โรคกระดูกสันหลังโป่ง ฯลฯ เงื่อนไขตามแผนประกันกำหนด*
*การซื้อประกันสุขภาพเพื่อเตรียมพร้อมก่อนเป็น “คุณแม่” ควรศึกษาเงื่อนไขและข้อยกเว้นอย่างละเอียดนะคะ เนื่องจากคนตั้งครรภ์ถือเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ประกันสุขภาพบางกรมธรรม์อาจไม่คุ้มครองค่ะ
การเริ่มต้นสร้างครอบครัวเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ จำเป็นต้องวางแผนอย่างรอบคอบในยุคที่อะไรก็ไม่แน่นอนแบบนี้ การศึกษาและมองหาแผนประกันที่เหมาะสมกับตัวเราจึงไม่ควรมองข้ามเลยนะคะ และสามารถอ่านบทความเปรียบเทียบแผนประกันค่าคลอดบุตรได้ที่นี่