ตรวจสุขภาพประจำปี : ตรวจอะไรบ้างและเตรียมตัวอย่างไร ?

เขียนวันที่ 10/11/2025 หมวดหมู่ รู้ทันประกันสุขภาพ

คู่รักมาเข้ารับการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน

การตรวจสุขภาพประจำปี เป็นหนึ่งในวิธีดูแลตัวเองที่สำคัญ เพราะช่วยคัดกรองเพื่อป้องกันโรคและภาวะผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ แม้หลายคนอาจยังไม่มีอาการผิดปกติ แต่การตรวจสุขภาพสามารถช่วยให้พบปัญหาที่ซ่อนอยู่ก่อนจะลุกลามได้ ดังนั้น การมีข้อมูลสุขภาพของตัวเองอย่างละเอียดจะช่วยให้วางแผนชีวิตและปรับพฤติกรรมเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีได้มากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงในอนาคต

ทำไมต้องตรวจสุขภาพประจำปี ?

การตรวจสุขภาพไม่ใช่เรื่องของผู้สูงอายุเท่านั้น แต่เหมาะสำหรับทุกช่วงวัย เพราะมีประโยชน์หลายด้าน เช่น

  • ตรวจพบโรคตั้งแต่ระยะแรก : บางโรคไม่แสดงอาการชัดเจน การตรวจสุขภาพจะช่วยให้พบปัญหาก่อนที่โรคจะลุกลาม
  • เพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาด : โรคที่พบเร็วมักรักษาได้ง่ายและมีผลข้างเคียงน้อย
  • ลดความรุนแรงและป้องกันภาวะแทรกซ้อน : การตรวจสุขภาพช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาได้ทันเวลา
  • เป็นข้อมูลสำคัญในการปรับพฤติกรรม : รู้ค่า BMI ระดับน้ำตาลหรือไขมันในเลือด ช่วยให้สามารถปรับอาหารและการออกกำลังกายได้อย่างเหมาะสม
  • ลดค่าใช้จ่ายระยะยาว : การรักษาโรคตั้งแต่ระยะแรกมักมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการรักษาเมื่อโรคลุกลาม
  • เข้าใจสุขภาพโดยรวม : ช่วยประเมินความเสี่ยงจากพันธุกรรม พฤติกรรม หรือโรคเรื้อรังที่อาจเกิดขึ้น

ตรวจสุขภาพ ตรวจอะไรบ้าง ?

การตรวจสุขภาพช่วยให้เรารู้เท่าทันโรคตั้งแต่ระยะแรก ซึ่งรายการตรวจอาจแตกต่างกันตามอายุ เพศ และพฤติกรรม แต่โดยทั่วไปควรประกอบด้วย

ตรวจร่างกายทั่วไปโดยแพทย์ (Physical Examination)

แพทย์จะประเมินสุขภาพโดยรวม เช่น ชีพจร ความดัน น้ำหนัก ส่วนสูง และสอบถามประวัติสุขภาพ เพื่อค้นหาความผิดปกติที่อาจซ่อนอยู่

ตรวจวัดความดันโลหิต ชีพจร และดัชนีมวลกาย (BMI)

การตรวจนี้ช่วยประเมินความเสี่ยงโรคเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคอ้วน โดยค่า BMI ที่สูงกว่ามาตรฐานอาจบ่งชี้ถึงภาวะน้ำหนักเกิน ซึ่งสัมพันธ์กับไขมันในเลือดสูงและเบาหวาน

ตรวจสายตาและการมองเห็น

ช่วยค้นหาความผิดปกติของสายตา เช่น สั้น ยาว เอียง หรือโรคต้อกระจกในผู้สูงอายุ หากพบปัญหาจะส่งต่อจักษุแพทย์เพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติม

ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete Blood Count: CBC)

การตรวจจำนวนเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด เพื่อประเมินภาวะโลหิตจาง การติดเชื้อ หรือโรคเลือดบางชนิด

ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (Fasting Blood Sugar)

ใช้คัดกรองโรคเบาหวานในระยะแรกที่ยังไม่มีอาการ โดยก่อนตรวจสุขภาพควรงดอาหารอย่างน้อย 8-12 ชั่วโมงก่อนตรวจเพื่อผลที่แม่นยำ

ตรวจระดับไขมันในเลือด (Lipid Profile)

ประกอบด้วยการตรวจคอเลสเตอรอลรวม (Total Cholesterol), ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride), HDL (ไขมันดี) และ LDL (ไขมันเลว) เพื่อประเมินความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด

ตรวจการทำงานของไต (Kidney Function Test)

ตรวจค่าการทำงานของไต เช่น Creatinine และ BUN เพื่อดูการทำงานของไต โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเบาหวานหรือความดันโลหิตสูง

ตรวจการทำงานของตับ (Liver Function Test)

ประกอบด้วยการตรวจค่า SGOT, SGPT และ ALP เพื่อตรวจสุขภาพตับ โดยอาจตรวจคัดกรองพบโรคตับอักเสบ ไขมันพอกตับ หรือผลจากการดื่มแอลกอฮอล์

ตรวจระดับกรดยูริก (Uric Acid Test)

ใช้ประเมินความเสี่ยงของโรคเกาต์ ซึ่งเกิดจากการสะสมของกรดยูริกในเลือด หากมีค่าระดับสูง อาจต้องปรับพฤติกรรมการกิน เช่น ลดอาหารที่มีพิวรีนสูง (เครื่องในสัตว์ ถั่วบางชนิด)

ตรวจเอกซเรย์ปอดและหัวใจ (Chest X-Ray)

ช่วยให้แพทย์สามารถมองเห็นภาพรวมของอวัยวะในทรวงอก เช่น ปอด หัวใจ และกระดูกซี่โครง เพื่อหาความผิดปกติ เช่น ภาวะปอดอักเสบ หัวใจโต หรือเนื้องอกในปอด

ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram: EKG)

ตรวจจับสัญญาณไฟฟ้าจากหัวใจ เพื่อดูจังหวะการเต้นที่ผิดปกติ หรือภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ

นอกจากนี้ อาจเพิ่มการตรวจเฉพาะทางตามเพศและอายุ เช่น ตรวจมะเร็งปากมดลูกสำหรับผู้หญิง ตรวจต่อมลูกหมากสำหรับผู้ชาย หรือ Tumor Markers สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง

การตรวจความดันโลหิต ที่มีในแพ็กเกจตรวจสุขภาพพื้นฐาน

ตรวจสุขภาพ เตรียมตัวอย่างไรให้ถูกต้อง ?

ก่อนเข้ารับการตรวจสุขภาพ ควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อให้ผลตรวจแม่นยำมากที่สุด เช่น

  • คนที่จะเข้าตรวจสุขภาพควรงดอาหารและเครื่องดื่ม อย่างน้อย 8-12 ชั่วโมงก่อนตรวจเลือด เพื่อให้ผลตรวจแม่นยำ ลดความคลาดเคลื่อนของระดับน้ำตาลและไขมัน
  • วิธีทำให้ปวดฉี่ ก่อนตรวจสุขภาพ คือควรดื่มน้ำให้เพียงพอ ก่อนเข้าตรวจประมาณ 2-3 แก้ว เพื่อให้สามารถเก็บตัวอย่างปัสสาวะได้สะดวก แต่ไม่ควรดื่มมากเกินไปจนลำบากขณะตรวจ
  • งดดื่มแอลกอฮอล์หรือกาแฟ 24 ชั่วโมงก่อนตรวจ เพราะอาจมีผลต่อค่าตับและความดัน
  • แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่รับประทานอยู่เป็นประจำ รวมถึงประวัติโรคประจำตัว การแพ้ยา หรือการผ่าตัดที่ผ่านมา
  • หากเป็นผู้หญิง ควรหลีกเลี่ยงช่วงมีประจำเดือน เนื่องจากอาจมีผลต่อค่าบางรายการ เช่น การตรวจปัสสาวะ

ตรวจสุขภาพ ราคา และแพ็กเกจ

ค่าใช้จ่ายในการตรวจสุขภาพขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลและรายการตรวจ โดยแต่ละแห่งมักมีแพ็กเกจตรวจสุขภาพให้เลือก เช่น

  • โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ มีแพ็กเกจตรวจสุขภาพทั่วไป ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,990 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
  • โรงพยาบาลเครือพญาไท มีโปรแกรมตรวจสุขภาพรายปีทั้งแบบพื้นฐานและเฉพาะทาง เช่น ตรวจตับ ไต หัวใจ ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,200 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
  • โรงพยาบาลเปาโล เกษตร มีแพ็กเกจตรวจสุขภาพเฉพาะผู้หญิงและผู้ชาย โดยปรับให้เหมาะสมกับช่วงอายุและพฤติกรรมการใช้ชีวิต ราคาเริ่มต้นประมาณ 990 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)

โดยผู้เข้ารับการตรวจสามารถเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมกับอายุ เพศ และความเสี่ยงส่วนบุคคล เพื่อให้ครอบคลุมและคุ้มค่ามากที่สุด

เสริมความมั่นใจกับประกันโรคมะเร็ง

การตรวจสุขภาพเป็นก้าวแรกที่ช่วยให้คุณรู้ทันปัญหาสุขภาพตั้งแต่เนิ่น ๆ แต่หากอยากเพิ่มความมั่นใจมากยิ่งขึ้น การมีประกันสุขภาพที่ครอบคลุมก็สำคัญเช่นกัน ขอแนะนำ ประกันโรคมะเร็งออนไลน์ เจอ จ่าย จบ ทุกระยะ จาก gettgo สมัครง่าย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ ค่าเบี้ยเบา ๆ เริ่มต้นเพียงวันละ 4 บาท แต่ให้ความคุ้มครองครบ

  • รับเงินก้อนทันทีหากตรวจพบมะเร็งทุกระยะ
  • เข้าถึงการรักษาได้จริง ไม่ต้องกังวลค่าใช้จ่าย
  • พิเศษ! ยังได้รับความคุ้มครองอุบัติเหตุเพิ่มเติม
  • สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้

อย่ารอให้ความเสี่ยงเกิดขึ้นก่อน มาตรวจสุขภาพเป็นประจำ และเสริมเกราะป้องกันให้ชีวิตคุณกับประกันมะเร็งออนไลน์ได้แล้ววันนี้ที่ gettgo สนใจเข้ามาตรวจเช็กเบี้ยประกันภัยได้ทันทีผ่านเว็บไซต์ หรือสอบถามเพิ่มเติมผ่าน LINE OA: @gettgo หรือโทร. 02-111-7800

ข้อมูลอ้างอิง

  1. ตรวจสุขภาพประจำปี ตรวจอะไรบ้าง?. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 จาก https://www.nonthavej.co.th/health-check-up.php
  2. 13 รายการตรวจ ที่คุณอาจได้รับจากโปรแกรมตรวจสุขภาพทั่วไป. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 จาก https://hdmall.co.th/blog/c/health-checkup-list/
บทความที่คุณอาจสนใจ