หลายคนคงเคยมีประสบการณ์รู้สึกเหมือนโลกกำลังหมุนรอบตัว พร้อมกับความรู้สึกโคลงเคลง เดินไม่ตรง หรือแม้แต่รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะล้มทั้ง ๆ ที่ยืนนิ่ง ๆ อยู่ อาการเหล่านี้เรียกว่า "บ้านหมุน" หรือ "เวอร์ติโก" (Vertigo) ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตาม อาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย
สาเหตุของอาการบ้านหมุน เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม
อาการบ้านหมุนหรือเวียนหัว สามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย โดยสาเหตุหลักที่พบได้บ่อย มีดังนี้
เวียนหัวจากหูชั้นใน (Benign Paroxysmal Positional Vertigo - BPPV)
หูชั้นใน ทำหน้าที่ช่วยรักษาการทรงตัว แต่เมื่อผลึกแคลเซียมในหูชั้นในเกิดการเคลื่อนที่ผิดปกติ จะทำให้สมองแปลสัญญาณผิดพลาด ส่งผลให้รู้สึกเหมือนทุกอย่างรอบตัวกำลังหมุน อาการนี้มักเกิดขึ้นทันทีเมื่อมีการเปลี่ยนท่าทางอย่างเร็ว เช่น ตอนลุกจากเตียง หรือเวลาหันหน้าไปด้านข้างกะทันหัน
ไมเกรน (Migraine)
ไมเกรน ทำให้เกิดอาการเวียนหัวหรือบ้านหมุนได้ โดยผู้ป่วยมักจะรู้สึกไวต่อแสงและเสียงมากกว่าปกติ รวมถึงมีอาการคลื่นไส้ และปวดศีรษะอย่างรุนแรงข้างใดข้างหนึ่ง
โรคทางระบบประสาท (Neurological Disorders)
บางครั้งอาการบ้านหมุนอาจเกิดจากปัญหาที่สมองหรือระบบประสาท เช่น โรคหลอดเลือดสมอง หรือมีเนื้องอกในสมอง ซึ่งในกรณีเหล่านี้ ผู้ป่วยมักจะมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น รู้สึกชาตามแขนหรือขา พูดไม่ชัด หรือมองเห็นภาพไม่ปกติ
ความดันโลหิตต่ำ (Low Blood Pressure)
เมื่อความดันเลือดลดลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะตอนที่ลุกขึ้นยืนเร็วเกินไป เลือดจะไหลเวียนไปเลี้ยงสมองไม่ทัน ทำให้เกิดอาการมึนงง เวียนศีรษะ หรือรู้สึกใจหวิวเหมือนจะเป็นลม อาการนี้พบได้บ่อยในคนที่มีความดันโลหิตต่ำอยู่แล้ว หรือคนที่ดื่มน้ำไม่เพียงพอ
ภาวะเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร (Gastrointestinal Issues)
ปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร เช่น โรคกรดไหลย้อน หรือการติดเชื้อในกระเพาะ ก็สามารถทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และเวียนหัวได้เช่นกัน โดยอาการมักจะเกิดหลังจากรับประทานอาหารบางชนิด หรือรับประทานอาหารในปริมาณมากเกินไป
อาการบ้านหมุนหายเองได้ไหม ? วิธีแก้อาการบ้านหมุน เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม
โดยทั่วไป อาการบ้านหมุนสามารถหายได้เอง อย่างไรก็ดี มีวิธีการดูแลตนเองเบื้องต้นที่สามารถช่วยบรรเทาอาการได้ ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่เร็วเกินไป
ควรเคลื่อนไหวช้า ๆ โดยเฉพาะเวลาเปลี่ยนท่าทาง เช่น จากนอนเป็นนั่ง หรือจากนั่งเป็นยืน เพื่อให้ร่างกายมีเวลาปรับตัว วิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการบ้านหมุนได้ - ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การขาดน้ำ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการเวียนหัว ดังนั้น ควรดื่มน้ำให้ได้ประมาณ 6-8 แก้วต่อวัน เพื่อช่วยให้ร่างกายทำงานได้ตามปกติ และรักษาระดับความดันเลือดให้คงที่ - นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนไม่พอทำให้อาการเวียนหัวแย่ลงได้ จึงควรนอนให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงทุกคืน และพยายามเข้านอนและตื่นในเวลาเดิมทุกวัน เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ - หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้คลื่นไส้
อาหารบางอย่าง เช่น อาหารรสจัด อาหารมัน หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาจกระตุ้นให้เกิดอาการคลื่นไส้และเวียนหัว จึงควรสังเกตว่าอาหารชนิดไหนที่ทำให้รู้สึกแย่ลง แล้วหลีกเลี่ยงไม่รับประทานอาหารเหล่านั้น - ใช้เทคนิคการหายใจลึก ๆ
เมื่อเริ่มรู้สึกเวียนหัวหรือคลื่นไส้ ลองหายใจเข้าลึก ๆ ช้า ๆ แล้วค่อย ๆ หายใจออกยาว ๆ การหายใจแบบนี้จะช่วยให้เลือดนำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น และยังช่วยลดความกังวลที่อาจทำให้อาการแย่ลง
อาการเวียนหัว บ้านหมุนแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์ ?
แม้ว่าอาการบ้านหมุนหรือเวียนหัวส่วนใหญ่จะไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่บางครั้งก็อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณอาจมีปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ ซึ่งสัญญาณที่ควรระวัง มีดังนี้
- อาการเวียนหัวหรือบ้านหมุนรุนแรงหรือไม่หายไป
ถ้าอาการรุนแรงจนทำให้ใช้ชีวิตประจำวันไม่ได้ หรือมีอาการต่อเนื่องนานเกิน 2-3 วัน แม้ว่าจะได้พักผ่อนเต็มที่แล้ว ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจมีโรคแทรกซ้อนหรืออาการอื่น ๆ ที่อาจต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน - มีอาการร่วมอื่น ๆ เช่น ชาตามมือหรือขา
หากมีอาการผิดปกติอื่น ๆ เกิดขึ้นพร้อมกัน เช่น มีอาการชาตามแขนขา กล้ามเนื้ออ่อนแรง พูดไม่ชัด มองเห็นภาพซ้อน หรือปวดหัวรุนแรงแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของโรคหลอดเลือดสมองได้ - มีอาการหายใจไม่สะดวก หรือเจ็บหน้าอก
เมื่อมีอาการเวียนหัวพร้อมกับหายใจลำบาก เจ็บหน้าอก หรือใจเต้นผิดปกติ อาการเหล่านี้อาจบ่งชี้ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจหรือหลอดเลือด ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรีบไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด - อาการเกิดขึ้นบ่อยครั้งหรือไม่ทราบสาเหตุ
ถ้าคุณมีอาการบ้านหมุนหรือเวียนหัวเกิดขึ้นบ่อย ๆ โดยไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยสาเหตุและหาวิธีรักษาที่เหมาะสม ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้อาการแย่ลงหรือเกิดปัญหาแทรกซ้อนตามมาในอนาคต
เมื่อเราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าอาการบ้านหมุนหรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ จะเกิดขึ้นเมื่อใด การเตรียมความพร้อมด้วยการมีประกันสุขภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับผู้ที่สนใจซื้อประกันสุขภาพออนไลน์ ขอแนะนำประกันสุขภาพ So You ที่มอบอิสระให้คุณเลือกความคุ้มครองได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการรักษาผู้ป่วยใน (IPD) การรักษาผู้ป่วยนอก (OPD) หรือความคุ้มครองโรคร้ายแรง นอกจากนี้ ยังปรับเปลี่ยนแผนให้เหมาะกับงบประมาณและความจำเป็นของแต่ละบุคคลได้ โดยครอบคลุมผู้เอาประกันในช่วงอายุกว้างตั้งแต่ 20-99 ปี ไม่จำเป็นต้องผ่านการตรวจสุขภาพให้ยุ่งยาก เพียงตอบคำถามสุขภาพง่าย ๆ 3 ข้อ ก็สามารถเริ่มต้นความคุ้มครองได้ทันที และที่สำคัญ กระบวนการสมัครทั้งหมดใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น ตรวจเช็กเบี้ยประกันได้ทันทีผ่านเว็บไซต์ หรือสอบถามเพิ่มเติมผ่าน LINE OA: @gettgo หรือโทร. 02-111-7800
ข้อมูลอ้างอิง
- บ้านหมุน เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม วิธีแก้ได้อย่างไร?. สืบค้นเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 จาก https://www.vimut.com/article/dizziness-and-vertigo.