6 โรคหน้าหนาวที่ควรระวัง พร้อมวิธีป้องกันไม่ให้ป่วย

แม้ฤดูหนาวจะเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของการได้นั่งห่มผ้าอุ่น ๆ และดื่มเครื่องดื่มร้อน ๆ แต่ถึงอย่างนั้น ช่วงเวลานี้ก็มาพร้อมกับภัยคุกคามต่อสุขภาพที่เราต้องระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคภัยไข้เจ็บทั้งทางกายและทางใจ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ดังนั้น การรู้เท่าทันและเข้าใจโรคจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้เราป้องกันและรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้ชีวิตในฤดูหนาวได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย

 

 

ทำไมฤดูหนาวจึงเป็นช่วงที่เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยง่าย ?

อากาศหนาวส่งผลกระทบต่อทั้งร่างกายและจิตใจของเราหลายอย่าง โดยในด้านร่างกาย สภาพอากาศที่หนาวเย็นจะทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง ผิวหนังแห้งแตก และระบบทางเดินหายใจทำงานได้ไม่เต็มที่ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเปิดโอกาสให้เชื้อโรคต่าง ๆ เข้ามาทำร้ายร่างกายได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ในด้านจิตใจ การที่มีแสงแดดน้อยลงและต้องอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลานาน ก็อาจส่งผลให้เกิดความรู้สึกหดหู่และเหงา จนอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วย

6 โรคหน้าหนาวที่ต้องระวัง

นอกจากความหนาวเย็น ฤดูหนาวยังมาพร้อมกับโรคภัยไข้เจ็บหลากหลายชนิดที่เราควรระวัง มาดูกันว่ามีโรคอะไรบ้างที่มักพบบ่อยในช่วงนี้

1. ไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่

เมื่อพูดถึงโรคในฤดูหนาว สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงย่อมเป็นไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่พบบ่อยที่สุดในช่วงนี้ ถึงแม้ว่าทั้งสองโรคจะมีอาการคล้ายกัน เช่น จาม ไอ น้ำมูกไหล และปวดเมื่อยตามร่างกาย อย่างไรก็ตาม ไข้หวัดใหญ่มักมีอาการรุนแรงกว่า โดยผู้ป่วยอาจมีไข้สูง ปวดศีรษะรุนแรง และเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนได้มากกว่า

2. โรคปอดอักเสบ

ในช่วงที่อากาศหนาวเย็น ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมักอ่อนแอลง และหากมีอาการไข้หวัดที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ก็อาจลุกลามกลายเป็นโรคปอดอักเสบได้ง่าย ทั้งนี้ ภาวะดังกล่าวเกิดจากการอักเสบของเนื้อปอด ซึ่งมีสาเหตุมาจากหลายเชื้อโรค ไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา ที่มักแพร่กระจายได้ดีในอากาศเย็น ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการหลัก ๆ คือไข้สูง ไอรุนแรง เจ็บหน้าอก และหายใจลำบาก ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ก็อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายได้

3. โรคผิวหนังอักเสบ

ไม่เพียงแต่ระบบทางเดินหายใจเท่านั้น ผิวหนังก็เป็นอีกอวัยวะหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากอากาศหนาวด้วยเช่นกัน โดยสภาพอากาศที่หนาวและแห้งอาจทำให้ผิวหนังแห้งแตกและเกิดการอักเสบได้ง่าย ซึ่งผู้ป่วยมักมีอาการผิวแห้ง คัน แดง ลอก เป็นขุย และในบางรายอาจพบตุ่มน้ำร่วมด้วย

4. โรคภูมิแพ้

ในขณะที่หลายคนเจอกับปัญหาผิวแห้งอักเสบ ผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ก็ต้องเผชิญกับการกำเริบของโรคในช่วงนี้เช่นกัน สาเหตุสำคัญเนื่องมาจากส่วนใหญ่แล้ว เรามักจะปิดประตูหน้าต่างเพื่อกันความหนาว ซึ่งทำให้มีการสะสมของไรฝุ่นและเชื้อโรคภายในบ้านมากขึ้น จึงส่งผลให้เกิดอาการจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล รวมถึงอาการตาแดง คันตา และหายใจลำบากได้อีกด้วย

5. โรคหัวใจและหลอดเลือด

ความหนาวเย็นไม่เพียงแต่ส่งผลต่อผิวภายนอกเท่านั้น แต่ยังกระทบถึงระบบการทำงานภายในร่างกายด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบหัวใจและหลอดเลือด เพราะเมื่ออากาศหนาว หลอดเลือดจะหดตัวทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด และอาจเป็นอันตรายมากขึ้นโดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว

6. โรคซึมเศร้า

ท้ายที่สุด นอกจากผลกระทบทางร่างกายแล้ว สภาพอากาศในฤดูหนาวยังส่งผลต่อสุขภาพจิตด้วยเช่นกัน โดยการมีแสงแดดน้อยและการต้องอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลานาน อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้ โดยผู้ที่มีภาวะนี้มักแสดงอาการหลายอย่างร่วมกัน ทั้งความรู้สึกเศร้าและเบื่อหน่าย การขาดความสนใจในกิจกรรมที่เคยชอบ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการนอนและการรับประทานอาหาร อีกทั้งยังมักมีอาการเหนื่อยล้าอย่างต่อเนื่องร่วมด้วย

 วิธีดูแลตัวเองเบื้องต้นเพื่อป้องกันโรคหน้าหนาว

เมื่อทราบถึงโรคที่มากับหน้าหนาวแล้ว การเตรียมพร้อมและป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ มาดูกันว่ามีวิธีดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง

- ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง 

พื้นฐานที่สำคัญที่สุดในการป้องกันโรค คือ การมีร่างกายที่แข็งแรง โดยควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

- ป้องกันการติดเชื้อ 

นอกจากการดูแลสุขภาพแล้ว การป้องกันเชื้อโรคก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยควรล้างมือบ่อย ๆ สวมหน้ากากอนามัยเมื่อจำเป็น และหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย

- ดูแลผิวพรรณ 

เมื่อพูดถึงผิวที่แห้งแตกในหน้าหนาว การบำรุงผิวเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย ควรใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ และดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

- รักษาความอบอุ่น 

สำหรับการป้องกันความหนาว การเตรียมตัวให้พร้อมเป็นเรื่องสำคัญ โดยควรสวมใส่เสื้อผ้าที่อบอุ่นเพียงพอ และหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีอากาศเย็นจัดเป็นเวลานาน

- พบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ 

ท้ายที่สุด หากสังเกตพบอาการผิดปกติใด ๆ ไม่ควรรอให้อาการรุนแรง ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องโดยเร็ว

 

 

การดูแลสุขภาพในฤดูหนาวเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม เมื่อโรคภัยมาเยือนโดยไม่ทันตั้งตัว นอกเหนือจากการป้องกันและดูแลตัวเองแล้ว การมีประกันสุขภาพก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะเพิ่มความอุ่นใจให้คุณได้มากขึ้นเช่นกัน

 

ด้วยเหตุนี้ Gettgo จึงนำเสนอประกันสุขภาพที่สามารถสมัครได้ทันทีโดยไม่ต้องตรวจสุขภาพ โดยใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น และยังให้ความคุ้มครองอย่างครอบคลุมตั้งแต่โรคร้ายแรงระยะเริ่มต้นจนถึงระยะรุนแรง พร้อมวงเงินคุ้มครองสูงสุด 5 แสนบาทต่อการรักษาแบบผู้ป่วยในแต่ละครั้ง นอกจากนี้ หากต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติม คุณยังสามารถเลือก Top up จากความคุ้มครองสุขภาพที่มีอยู่ได้สูงสุดถึง 1 ล้านบาท หากสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 02-111-7800 หรือ LINE OA: @gettgo

 

ข้อมูลอ้างอิง

1. Winter Depression Research Clinic. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 จาก https://medicine.yale.edu/psychiatry/research/programs/clinical-people/winter/.

2. Shining a light on winter depression. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 จาก https://www.health.harvard.edu/newsletter_article/shining-a-light-on-winter-depression.