ประกันของเรา
บทความ
เกี่ยวกับ gettgo

ประกาศความเป็นส่วนตัวว่าด้วยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานและพนักงาน

บริษัท เมืองไทย โบรกเกอร์ จำกัด และ บริษัทในเครือ หมายรวมถึง บริษัทหรือองค์กรอื่นใดที่ควบคุม ถูกควบคุม หรืออยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท ซึ่งอาจมีผู้ถือหุ้นหรือกรรมการส่วนใหญ่เป็นชุดเดียวกัน (ซึ่งต่อไปนี้รวมเรียกว่า “MTB” “บริษัท” หรือ “เรา”) ตระหนักดีถึงสิทธิในความเป็นส่วนตัวและความรับผิดชอบของบริษัทเกี่ยวกับเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน และผู้สมัครงานทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงกรณีซึ่งท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับบุคคลอื่นแก่บริษัท เช่น บิดา มารดา พี่น้อง คู่สมรส หรือผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉินของท่าน (ซึ่งต่อไปนี้รวมเรียกว่า “พนักงาน” หรือ “ท่าน”) และ/หรือการส่ง การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลอื่น

บริษัทยึดค่านิยมที่ถือว่า ความไว้วางใจและความเชื่อมั่นที่ท่านมีให้แก่เรา เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งสำหรับบริษัท บริษัทจึงมุ่งมั่นที่จะดำเนินการให้มีการประมวลผลและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างถูกต้องและเหมาะสม ดังนั้น การสร้างความเข้าใจแก่ท่านในเรื่องของวิธีการขั้นตอนในการเก็บรวบรวม การใช้ การประมวลผล และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญสำหรับบริษัท ทั้งนี้ ท่านจะต้องอ่านและทำความเข้าใจประกาศความเป็นส่วนตัวว่าด้วยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานและผู้สมัครงานอย่างละเอียด ดังนี้

1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการให้ข้อมูลนั้นของท่าน โดยบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย การเข้าทำสัญญา และการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการบุคลากรเท่านั้น ทั้งนี้ หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อการดำเนินงานของบริษัท อาจส่งผลให้ทางบริษัทไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการเข้าทำสัญญาของท่าน หรือท่านอาจไม่ได้รับสิทธิบางประการจากบริษัท ตัวอย่างของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมประกอบไปด้วย

     ก. ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากท่านเมื่อท่านสมัครเป็นพนักงานของบริษัท อาทิ ชื่อ สกุล ที่อยู่ สถานที่ทำงาน ประวัติการศึกษา รายละเอียดการติดต่ออื่น ๆ อาทิ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ เพศ สัญชาติ สถานภาพการสมรส วันเกิด เลขที่หนังสือเดินทาง/บัตรประจำตัวประชาชน/ใบอนุญาตตัวแทน ใบอนุญาตขับขี่ ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่อยู่ในการดูแลของท่าน และภาพถ่าย ข้อมูลผู้ติดต่อฉุกเฉิน ลายมือชื่อ ใบอนุญาตทำงาน สถานะการเกณฑ์ทหาร เป็นต้น

     ข. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ได้แก่ ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลลายนิ้วมือ และประวัติอาชญากรรม

     ค. ข้อมูลที่เกี่ยวกับการทำงานของท่าน อาทิ ตำแหน่งงานของท่าน สถานที่ทำงาน รายละเอียดติดต่อที่ทำงาน วันลาพักผ่อน ชื่อพยานในสัญญาจ้างงาน วันเริ่มจ้างงาน วันจ้างงานต่อเนื่อง วันลางาน รายละเอียดการเข้างาน ข้อมูลระบุความถูกต้องแท้จริง สาเหตุการลางาน ข้อมูลการสรรหาบุคลากร บันทึกการจ้างงาน ประวัติการจ่ายค่าตอบแทน ข้อมูลผลการทำงาน              การประเมินผลงาน และรายละเอียดการดำเนินการทางวินัยหรือการร้องเรียน ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท ข้อมูลการติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ และเอกสารอื่น ๆ ที่ทำขึ้น ข้อมูลอื่น ๆ ที่ใช้ในระบบงานของบริษัท รวมถึงข้อมูลที่บันทึกในกล้องวงจรปิดในพื้นที่ของบริษัท เป็นต้น

     ง. ข้อมูลเกี่ยวกับการเงินของท่าน อาทิ ข้อมูลบัญชีธนาคาร การชำระภาษี เงินเดือน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินค่าตอบแทนและผลประโยชน์อื่น ๆ เป็นต้น

ในกรณีที่ท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับบุคคลอื่นแก่บริษัท (อาทิ สมาชิกในครอบครัว ญาติใกล้ชิด หรือเพื่อนของท่านเพื่อวัตถุประสงค์สำหรับเหตุฉุกเฉิน เพื่อจัดการผลประโยชน์ หรือการเข้าค้ำประกันท่าน) ท่านรับทราบและยืนยันว่าได้แจ้งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องทราบถึงการประมวลผลข้อมูลและได้รับความยินยอมของบุคคลนั้น (กรณีต้องขอความยินยอม) ในการเปิดเผยข้อมูลแก่บริษัทแล้ว และบุคคลดังกล่าวยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ตามวัตถุประสงค์ที่ได้กล่าวมา

ทั้งนี้ บริษัทไม่มีวัตถุประสงค์ที่จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่ปรากฎอยู่บนอยู่บนเอกสารระบุตัวตน หรือเอกสารประกอบการทำธุรกรรมและ/หรือนิติกรรมสัญญา โดยเราอาจดำเนินการดังกล่าวด้วยตนเราจะดำเนินการขีดฆ่าหรือปิดทับข้อมูลในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านเองโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ท่านทราบ หรือเราอาจขอให้ท่านเป็นผู้ดำเนินการขีดฆ่าหรือปิดทับข้อมูลในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านด้วยตนเอง

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) ได้แก่ ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลประวัติอาชญากรรม ข้อมูลลายนิ้วมือ ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นต่อการตรวจสอบคุณสมบัติของพนักงานตามที่บริษัทกำหนด พิจารณาการรับ/จ่ายค่าตอบแทน สวัสดิการ และผลประโยชน์ให้แก่พนักงาน การพิจารณาความความเหมาะสมต่อตำแหน่งงาน การรับเข้าทำงาน และการเลื่อนตำแหน่ง ทั้งนี้ หากตำแหน่งที่พนักงานได้รับมอบหมาย จำเป็นต้องมีการตรวจประวัติอาชญากรรมและ/หรือการเก็บลายนิ้วมือ บริษัทจะดำเนินการหลังได้รับความยินยอมจากพนักงาน เว้นแต่ในบางกรณีที่กฎหมายกำหนดให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องอาศัยความยินยอม ดังนั้น หากท่านไม่ให้ความยินยอมหรือถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวดังกล่าว บริษัทจะไม่สามารถดำเนินการพิจารณาเพื่อรับท่านเป็นพนักงานของบริษัท พิจารณาความเหมาะสมต่อตำแหน่งงาน

2. วิธีการเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทจะเก็บรวบรวม ข้อมูลการปฏิบัติงานของท่าน ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามข้อมูลที่ท่านได้ให้ไว้หรือได้มาในขณะที่ท่านสมัครเป็นพนักงานของบริษัท ในขั้นตอนการเข้ารับการอบรม การปฐมนิเทศ การเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท หรือตามกรณีอื่น หรือระหว่างระยะเวลาสัญญาที่ท่านเป็นพนักงานของบริษัท บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่น เช่น               ผู้ให้บริการสรรหาบุคลากร หน่วยงานของรัฐ/เอกชนที่มีอำนาจหน้าที่ การตรวจสอบและเก็บข้อมูลประวัติส่วนตัวของท่านจากบุคคลภายนอกเพิ่มเติมในกรณีที่มีข้อสงสัย เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำหรับประวัติด้านอาชญากรรม หรือแพทย์ผู้ชำนาญสำหรับข้อมูลสุขภาพ หรือจากบุคคลอ้างอิง และผู้บังคับบัญชาของท่าน ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมนั้น เป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อบริษัทในการเข้าทำสัญญาจ้างกับท่าน เพื่อเป็นการปฏิบัติตามสัญญาและกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้บังคับ หรือเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทเอง หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ร้องขอดังกล่าว บริษัทอาจไม่สามารถบริหารจัดการสัญญาจ้างระหว่างท่านกับบริษัทได้

3. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้เมื่อท่านสมัครเป็นพนักงาน หรือเข้าทำสัญญากับบริษัท เพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ที่ท่านให้ข้อมูล การบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคล และเพื่อส่งเสริมการเพิ่มประสบการณ์ที่ดีระหว่างบริษัทและท่าน บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้

3.1 การปฏิบัติภาระหน้าที่ของบริษัทตามสัญญาจ้างงาน

วัตถุประสงค์ และ/หรือกิจกรรม

ประเภทของข้อมูล

ฐานทางกฎหมาย

  • การตรวจสอบคุณสมบัติ และพิจารณารับท่านเป็นพนักงานรวมถึงติดต่อบุคคลอ้างอิงที่ท่านได้ให้ไว้
  • การตรวจสอบหรือยืนยันตัวตนของท่าน
  • การบริหารจัดการพนักงานและสัญญาจ้าง  เช่น จัดเตรียมอุปกรณ์ ระบบงานเพื่อสนับสนุนการทำงานของท่าน
  • การบริหารความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับท่าน
  • ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากท่านเมื่อท่านสมัครเป็นพนักงานของบริษัท
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
  • ข้อมูลที่เกี่ยวกับการทำงานของท่าน
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการเงินของท่าน
  • การปฏิบัติตามสัญญา
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
  • ความยินยอมโดยชัดแจ้ง
  • การปฏิบัติตามกฎหมาย
  • เพื่อประเมินและบริหารจัดการผลการปฏิบัติงาน การจัดการวันลา การฝึกอบรมและข้อกำหนดเกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากร รวมถึงการบริหารจัดการรูปแบบการทำงานของท่าน

 

 

  • เพื่อจ่ายค่าจ้าง เงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และผลประโยชน์อื่น ๆ ของท่าน ดำเนินการเรื่องค่าจ้างการทำงานล่วงเวลาและการเบิกค่าใช้จ่าย และพิจารณาเรื่องค่าตอบแทนของท่าน

 

 

  • เพื่อตอบสนองคำร้องขอที่มีถึงบริษัท เกี่ยวกับเงื่อนไขการทำงานของท่าน การจัดการกับข้อร้องเรียนและประเด็นของการประพฤติตัวไม่เหมาะสม ประเด็นปัญหาด้านวินัย และเรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับการจ้างงาน

 

 

  • เพื่อให้สิทธิประโยชน์เกี่ยวกับการจ้างงานแก่ท่าน รวมถึงการจัดทำประกันสุขภาพ โดยใช้ข้อมูลสุขภาพของท่าน

 

 

3.2 การปฏิบัติตามกฎหมาย

วัตถุประสงค์ และ/หรือกิจกรรม

ประเภทของข้อมูล

ฐานทางกฎหมาย

  • ใช้ข้อมูลของท่านในการหักภาษี เงินสมทบกองทุนประกันสังคม และเปิดเผยข้อมูลแก่หน่วยงานราชการ ได้แก่ กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เป็นต้น
  • ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากท่านเมื่อท่านสมัครเป็นพนักงานของบริษัท
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
  • ข้อมูลที่เกี่ยวกับการทำงานของท่าน
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการเงินของท่าน
  • การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
  • ใช้ข้อมูลด้านสุขภาพของท่านเพื่อประโยชน์ในการจัดสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยสำหรับท่าน รวมถึง การดำเนินการด้านอาชีวอนามัยและภาระหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยสุขภาพและความปลอดภัย

 

 

  • การปฏิบัติตามข้อบังคับที่กำกับดูแลบริษัท 
  • การปฏิบัติตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่ใช้บังคับ
  • การตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎระเบียบและกฎหมาย

 

 

  • เปิดเผยข้อมูลของท่านในกรณีที่บริษัท มีหน้าที่ตามกฎหมายที่ต้องปฏิบัติตาม

 

 

3.3 การบริหารจัดการธุรกิจของบริษัท

วัตถุประสงค์ และ/หรือกิจกรรม

ประเภทของข้อมูล

ฐานทางกฎหมาย

  • ใช้ข้อมูลของท่านเพื่อจัดทำข้อมูลด้านการบริหารจัดการบริการของบริษัทสำหรับงานการดำเนินงานภายในบริษัท และการวิเคราะห์ทางธุรกิจ
  • ข้อมูลที่เกี่ยวกับการทำงานของท่าน
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
  • เก็บบันทึกการติดต่อสื่อสารที่ส่งอยู่ในระบบของบริษัท และการใช้งานอื่นของระบบดังกล่าว บริษัทอาจติดตามและตรวจสอบการติดต่อสื่อสารดังกล่าวในกรณีที่มีเหตุผลโดยชอบด้วยกฎหมายที่จะกระทำ ทั้งนี้ท่านไม่ควรใช้ระบบงานของบริษัทในการส่งข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวข้องกับงาน

 

 

  • เก็บรักษาข้อมูลกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งภายในหรือโดยรอบสถานประกอบการของบริษัท และข้อมูลอื่นที่บันทึกเมื่อท่านเข้ามายังสถานประกอบการของบริษัท อาทิ การใช้บัตรผ่านเข้าออก  บริษัทอาจใช้ข้อมูลกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจจับและป้องกันอาชญากรรม ตรวจจับและป้องกันเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย ตรวจจับและป้องกันการการเข้ามาในสถานที่ของบริษัทและพื้นที่หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ตรวจจับและป้องกันการประพฤติผิดอย่างร้ายแรง สนับสนุนงานสอบสวนกรณีความมั่นคง ความปลอดภัย และกิจการภายใน สนับสนุนการสอบสวนอาชญากรรม และเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ด้านความมั่นคงและปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการซักซ้อมฝึกอบรมด้านความปลอดภัย

 

 

  • ใช้ข้อมูลของท่านในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือกรณีข้อพิพาทซึ่งท่านหรือบุคคลอื่นเป็นผู้ยื่นเรื่อง

 

 

  • จัดทำข้อมูลการติดต่อของท่านในกรณีฉุกเฉินและกรณีอื่น และนำมาใช้เมื่อจำเป็น
  • ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากท่านเมื่อท่านสมัครเป็นพนักงานของบริษัท
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
  • เป็นการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
  • เพื่อติดต่อประชาสัมพันธ์กิจกรรม/สิทธิประโยชน์ให้แก่ท่านในฐานะพนักงานของบริษัท
  • ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากท่านเมื่อท่านสมัครเป็นพนักงานของบริษัท
  • ข้อมูลที่เกี่ยวกับการทำงานของท่าน
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในวัตถุประสงค์ที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น บริษัทจะจัดให้มีเอกสารการแจ้งข้อมูลการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม เพื่ออธิบายการใช้ข้อมูลในวัตถุประสงค์ดังกล่าว ท่านควรอ่านเอกสารการแจ้งการประมวลผลข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องดังกล่าวร่วมกับคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับ

4. วิธีการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

การปกป้องความเป็นส่วนตัวของท่านถือเป็นสิ่งสําคัญอย่างยิ่งสําหรับบริษัท บริษัทมีนโยบายและกระบวนการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล และบริษัทจํากัดสิทธิการเข้าถึง ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับเฉพาะบุคคลที่จําเป็นต้องใช้ข้อมูลของท่านในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ เช่น พนักงานหรือตัวแทนของบริษัท ซึ่งบุคคลที่บริษัทอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้น จะต้องยึดมั่นและทําการปกป้อง ตลอดจนและรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว บริษัทมีมาตรการการป้องกันทั้งทางกายภาพและทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการกํากับดูแลที่บังคับใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ในกรณีที่บริษัทมีการเข้าทําสัญญากับบุคคลที่สาม บริษัทจะกําหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล การรักษาข้อมูลที่เป็นความลับที่เหมาะสม ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความปลอดภัย

5. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทมีนโยบายที่จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ท่านได้ให้ไว้เท่านั้น โดยทั่วไปแล้วบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านดังนี้

  • กรณีพนักงานของบริษัท บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลของท่านเป็นระยะเวลา  2 ปี นับแต่ได้มีการเลิก หรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง หรืออาจเก็บรวบรวมเป็นระยะเวลาตราบเท่าที่กฎหมายที่ใช้บังคับอาจกำหนดหรืออนุญาต (ทั้งนี้แม้ว่าท่านอาจจะยุติความสัมพันธ์กับบริษัทแล้ว)
  • สำหรับข้อมูลที่เกิดจากการจ่ายผลตอบแทนผลประโยชน์ให้แก่ท่านบริษัทจะจัดเก็บข้อมูลการจ่ายผลตอบแทนดังกล่าวเป็นระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่เกิดธุรกรรมตามที่กฎหมายกำหนด
  • กรณีผู้สมัครงานหากท่านไม่ได้รับคัดเลือกบริษัทจะจัดเก็บข้อมูลของท่านไว้เป็นระยะเวลา 1 เดือนนับแต่สิ้นสุดกระบวนการสรรหาว่าจ้าง
6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทมีนโยบายและกระบวนการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทจำกัดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับเฉพาะบุคคลที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลของท่าน อย่างไรก็ตามข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการเปิดเผยไปยังกลุ่มบุคคล ได้แก่

  • บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกที่เป็นผู้ให้บริการของบริษัท เช่น บุคคลภายนอกซึ่งให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ช่วยในการดำเนินธุรกิจของบริษัทหรือที่ปรึกษาวิชาชีพ  บริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันภัย หน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการรับ/จ่ายค่าตอบแทนและผลประโยชน์ให้แก่ท่าน เช่น ธนาคาร ผู้ให้บริการด้านสุขภาพ บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน เป็นต้น หน่วยงานฝึกอบรม ทนายความหรือนักบัญชี หากบริษัทเปิดเผยข้อมูลแก่ผู้ให้บริการภายนอก บริษัทจะใช้มาตรการควบคุมที่เข้มงวดเพื่อให้มีการคุ้มครองข้อมูลอย่างเหมาะสม
  • บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลของท่านแก่ลูกค้า/คู่ค้าหากมีความจำเป็นในการให้บริการลูกค้าหรือมีหน้าที่ในการติดต่อประสานงานกับคู่ค้า เช่น บริษัทอาจให้รายละเอียดติดต่อของท่านเพื่อให้ลูกค้าติดต่อกับท่านในเรื่องที่เกี่ยวกับงานที่ท่านมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่
  • บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลของท่านหากเป็นหน้าที่ที่บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น ในกรณีซึ่งกฎหมาย หน่วยงานราชการและหน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย คณะกรรมการต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย หน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแล กำหนดให้บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลนั้น หรือบริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลอันเป็นส่วนหนึ่งของการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย บริษัทยังอาจจะเปิดเผยข้อมูลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ และการเปิดเผยนั้นจำเป็นและได้สัดส่วน เช่น บริษัทอาจให้ข้อมูลของท่านกับหน่วยงานด้านภาษี กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานประกันสังคม กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา

ในกรณีที่บริษัทมีการเข้าทำสัญญากับบุคคลที่สาม หรือผู้รับจ้างให้บริการแก่บริษัท บริษัทจะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล การรักษาข้อมูลที่เป็นความลับที่เหมาะสม ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความปลอดภัย

7. สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ในฐานะเจ้าของข้อมูล ท่านมีสิทธิ์สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้

  • สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสําเนาข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท รวมถึงการขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านในกรณีที่เป็นข้อมูลซึ่งท่านไม่ได้ให้ความยินยอมในการรวบรวมหรือจัดเก็บ
  • สิทธิในการขอให้บริษัทดําเนินการปรับปรุงหรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  • สิทธิในการขอให้ระงับการ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการ ชั่วคราว
  • สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน
  • สิทธิในการขอให้ดําเนินการลบหรือทําลาย หรือทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในรูป แบบที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
  • สิทธิในการถอนความยินยอม ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไว้แล้ว
  • สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

บริษัทจะดําเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 (สามสิบ) วันหลังจากที่ท่านมีคําขอดังกล่าวมาถึงบริษัทหากท่านต้องการที่จะใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น กรุณาติดต่อมายังบริษัทที่ hr@gettgo.com หรือ dpo-office@gettgo.com

8. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวว่าด้วยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน

บริษัทสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขประกาศความเป็นส่วนตัวว่าด้วยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานและผู้สมัครงานนี้ได้ตลอดเวลา กรณีที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ บริษัทจะนำข้อมูลใหม่มาปรับปรุงบนหน้าเว็บไซต์ https://gettgo.com/privacy-policy  หรือตามช่องทางที่บริษัทเห็นว่าเหมาะสม ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568


เข้าสู่ระบบ

หากยังไม่มีบัญชีผู้ใช้ กรุณา สมัครสมาชิก

 

สมัครสมาชิก

หากเป็นสมาชิกอยู่แล้วกรุณา ลงชื่อเข้าใช้งาน

Loading..

กำลังดำเนินการ กรุณารอสักครู่ค่ะ 😊

ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

    ข้าพเจ้ายินยอมให้บริษัท เมืองไทย โบรกเกอร์ จำกัด  (“บริษัท”)
เก็บรวบรวมใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าเพื่อการนำเสนอโปรโมชั่น สิทธิพิเศษ ข่าวสาร ผลิตภัณฑ์ บริการ จากบริษัท รวมถึงการพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ การวิเคราะห์ วิจัย ทำสถิติจากบริษัท และ/หรือบริษัทในเครือและพันธมิตรทางธุรกิจ และเพื่อโอกาสที่ข้าพเจ้าจะได้รับข้อเสนอ บริการพิเศษ โปรโมชั่น หรือผลิตภัณฑ์ที่คัดสรรมาอย่างเหมาะสมจากบริษัทในเครือและพันธมิตรทางธุรกิจ ข้าพเจ้ายินยอมให้เปิดเผยข้อมูลของข้าพเจ้าให้แก่บริษัทดังกล่าว เพื่อวิเคราะห์ตลอดจนการนำเสนอ ผลิตภัณฑ์และบริการ 

การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล 

    ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
    บริษัทจะดำเนินการอย่างดีที่สุดในการรักษาความลับและดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัย คุณสามารถเลือกให้หรือไม่ให้ความยินยอมโดยไม่มีผลต่อการพิจารณาผลิตภัณฑ์หรือบริการ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เว็บไซต์ https://gettgo.com/privacy-policy
ทั้งนี้คุณสามารถเปลี่ยนแปลงการให้ความยินยอมได้ โดยติดต่อเราที่ email : dpo-office@mtb.co.th หรือโทร 02-693-2775 (DPO)
     การที่คุณยอมรับตามด้านล่างนี้ถือว่าคุณได้ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้
และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามที่ได้กำหนดไว้ข้างต้น