ประกาศความเป็นส่วนตัวว่าด้วยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า
บริษัท เมืองไทย โบรกเกอร์ จํากัด และ บริษัทในเครือ หมายรวมถึง บริษัทหรือองค์กรอื่นใดที่ ควบคุม ถูกควบคุม หรืออยู่ภายใต้ การควบคุมของบริษัท ซึ่งอาจมีผู้ถือหุ้นหรือกรรมการ ส่วนใหญ่เป็นชุดเดียวกัน (ซึ่งต่อไปนี้รวมเรียกว่า “MTB" "บริษัท” หรือ “เรา”) ตระหนักดีถึงสิทธิในความเป็นส่วนตัวและความรับผิดชอบของ บริษัท เกี่ยวกับเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และ/หรือการส่ง การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลอื่น
บริษัทยึดค่านิยมที่ถือว่า ความไว้วางใจและความเชื่อมั่นที่ท่านมีให้แก่เรา เป็นสิ่งสําคัญที่สุดสิ่งหนึ่งสําหรับเรา บริษัท จึงมุ่งมั่นที่จะดําเนินการให้มีการประมวลผลและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างถูกต้องและเหมาะสม ดังนั้น การสร้างความเข้าใจแก่ท่านในเรื่องของวิธีการ ขั้นตอนในการเก็บรวบรวม การใช้ การประมวลผล และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจึง เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สําคัญสําหรับบริษัท ทั้งนี้ ขอให้ท่านศึกษาและทําความเข้าใจนโยบายฉบับนี้อย่างละเอียด ดังนี้
1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ และหรือ/เปิดเผยจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการให้ข้อมูลนั้นของท่าน โดยบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย การเข้าทำสัญญา และการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทเท่านั้น ทั้งนี้ หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อการดำเนินงานของบริษัท อาจส่งผลให้ทางบริษัทไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการเข้าทำสัญญาของท่าน หรือท่านอาจไม่ได้รับสิทธิบางประการจากบริษัท ตัวอย่างของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมประกอบไปด้วย
ก. ข้อมูลที่ต้องใช้สำหรับการทำสัญญา เช่น ข้อมูลที่อยู่ในบัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับขี่ หรือเอกสารระบุตัวตนอื่น ได้แก่ ชื่อ นามสกุล หมายเลขประจำตัวประชาชน วันเดือน ปีเกิด เพศ อายุ สัญชาติ ภาพถ่ายของผู้ถือบัตร ข้อมูลติดต่อ เช่น ที่อยู่ สำเนาทะเบียนบ้าน เบอร์โทรศัพท์ Email เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินที่เอาประกัน เช่น ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ข้อมูลรถยนต์ รวมถึงข้อมูลของผู้รับประโยชน์ และผู้ชำระเบี้ย
ข. ข้อมูลด้านการเงิน ได้แก่ เลขบัญชีธนาคาร ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงิน เป็นต้น
ค. ข้อมูลการทำธุรกรรม เช่น ประวัติการติดต่อ บันทึกการเข้าใช้บริการ การประเมินความพึงพอใจ ประวัติการทำธุรกรรม เป็นต้น
ง. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว สำหรับการซื้อผลิตภัณฑ์บางประเภท เช่น ผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ หรือประกันอุบัติเหตุ
บริษัทมีความจําเป็นต้องเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น ข้อมูลสุขภาพ ซึ่งในกรณีเช่นว่าบริษัท จะขอความยินยอมจากท่านเพื่อเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลที่มีความอ่อนไหวนั้น บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบโดยชัดแจ้งเพื่อดําเนินการตามวัตถุประสงค์ในการนั้นต่อไป เว้นแต่เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลที่มีความอ่อนไหวที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องได้รับความยินยอมตามกฎหมาย
ทั้งนี้บริษัทไม่มีวัตถุประสงค์ที่จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่ปรากฎอยู่บนอยู่บนเอกสารระบุตัวตน หรือเอกสารประกอบการทำธุรกรรมและ/หรือนิติกรรมสัญญา โดยเราอาจดำเนินการดังกล่าวด้วยเอง โดยจะดำเนินการขีดฆ่าหรือปิดทับข้อมูลในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านเอง โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ท่านทราบ หรือเราอาจขอให้ท่านเป็นผู้ดำเนินการขีดฆ่าหรือปิดทับข้อมูลในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านด้วยตนเอง
2. วิธีการเก็บรวบรวมหรือการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรงจากท่าน ที่ท่านอาจได้ให้ไว้หรือได้มาในการทำการติดต่อกับบริษัทผ่านช่องทาง social media หรือเว็บไซต์ เมื่อสมัครเพื่อเข้าใช้บริการ หรือซื้อผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางของบริษัท หรือเมื่อท่านเข้ารับการบริการจากบริษัท
ในบางกรณีที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านจากแหล่งอื่น เช่น ได้รับจากบริษัทในเครือและ/หรือจากบุคคลที่สามที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัทฯ เช่น บริษัทประกันภัย ผู้ให้บริการข้อมูล พันธมิตรทางธุรกิจและผู้ให้บริการของพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ที่มีการเชื่อมต่อกับบริการของบริษัท แพลตฟอร์มออนไลน์ของบุคคลภายนอก แหล่งข้อมูลสาธารณะ
ในกรณีที่ท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับบุคคลอื่นแก่เรา ท่านรับรองและรับประกันความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น พร้อมทั้งรับรองและรับประกันว่าท่านได้นำส่งสำเนานโยบายนี้แก่บุคคลดังกล่าว พร้อมทั้งได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้น ๆ แล้วในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่เรา
3. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ที่ท่านให้ข้อมูล เพื่อการบริหารจัดการธุรกิจของบริษัท และเพื่อส่งเสริมการเพิ่มประสบการณ์ที่ดีระหว่างบริษัทและท่าน บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้
3.1 การปฏิบัติภาระหน้าที่ของบริษัทตามสัญญา
วัตถุประสงค์ และ/หรือกิจกรรม |
ประเภทของข้อมูล |
ฐานทางกฎหมาย |
---|---|---|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
3.2 การปฏิบัติตามกฎหมาย
วัตถุประสงค์ และ/หรือกิจกรรม |
ประเภทของข้อมูล |
ฐานทางกฎหมาย |
---|---|---|
|
|
|
3.3 การดำเนินธุรกิจของบริษัท
วัตถุประสงค์ และ/หรือกิจกรรม |
ประเภทของข้อมูล |
ฐานทางกฎหมาย |
---|---|---|
|
|
|
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในวัตถุประสงค์ที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น บริษัทจะจัดให้มีเอกสารการแจ้งข้อมูลการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม เพื่ออธิบายการใช้ข้อมูลในวัตถุประสงค์ดังกล่าว ท่านควรอ่านเอกสารการแจ้งการประมวลผลข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องดังกล่าวร่วมกับคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับ
4. วิธีการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
การปกป้องความเป็นส่วนตัวของท่านถือเป็นสิ่งสําคัญอย่างยิ่งสําหรับบริษัท บริษัทมีนโยบายและกระบวนการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล และบริษัทจํากัดสิทธิการเข้าถึง ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับเฉพาะบุคคลที่จําเป็นต้องใช้ข้อมูลของท่านในการจัดหา ผลิตภัณฑ์และเพื่อการให้บริการของบริษัท เช่น พนักงาน หรือตัวแทนของบริษัท ซึ่งบุคคลที่บริษัทอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้น จะต้องยึดมั่นและทําการปกป้อง ตลอดจนและรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว บริษัทมีมาตรการการป้องกันทั้ง ทางกายภาพและทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการกํากับดูแล ที่บังคับใช้เพื่อ ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ในกรณีที่บริษัทมีการเข้าทําสัญญากับบุคคลที่สาม บริษัทจะกําหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล การรักษาข้อมูลที่เป็นความลับที่เหมาะสม ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความปลอดภัย
5. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทมีนโยบายที่จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ท่านได้ให้ไว้เท่านั้น โดยทั่วไปแล้วบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านดังนี้
- โดยปกติ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลา 10 ปีนับจากวันสิ้นสุดของสัญญา เพื่อใช้ประกอบการดำเนินการตามกฎหมายหากกรณีมีข้อโต้แย้งหรือมีข้อพิพาทเกิดขึ้น ซึ่งระยะเวลาในการจัดเก็บดังกล่าวเป็นไปตามอายุความทั่วไปที่กฎหมายกำหนด สำหรับกรณีเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ท่านให้ อย่างไรก็ตาม อาจมีกรณีที่บริษัทจัดเก็บข้อมูลของท่านโดยใช้ระยะเวลาการจัดเก็บน้อยกว่า ระยะเวลาดังกล่าวได้
- ในกรณีที่ท่านมีการติดต่อกับบริษัทแต่ไม่ได้มีการทำสัญญา หรือไม่ก่อให้เกิดนิติสัมพันธ์ใดระหว่างกัน บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลา 1 ปี นับจากการติดต่อครั้งสุดท้ายระหว่างท่านกับบริษัท
6. การเปิดเผยและการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทมีนโยบายและกระบวนการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทจำกัดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับเฉพาะบุคคลที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลของท่าน อย่างไรก็ตามข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการเปิดเผยไปยังกลุ่มบุคคล ได้แก่
- คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทในการให้บริการต่าง ๆ เช่น การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ Social media platform บริการบันทึกข้อมูล บริการชำระหรือรับชำระเงิน บริการรับส่งไปรษณีย์ บริการรับส่งพัสดุเอกสาร บริการจัดพิมพ์ หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท อาทิ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันวินาศภัย ผู้ให้บริการสินเชื่อ ผู้ให้บริการทางการเงิน เป็นต้น
- ที่ปรึกษาของบริษัท อาทิ ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี นักการตลาดหรือผู้เชี่ยวชาญอื่นใด ทั้งภายในและภายนอกของบริษัท เป็นต้น
- บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้น ๆ อาทิ การเปิดเผยการประมวลภาพกิจกรรมตามช่องทางสื่อต่าง ๆ ของบริษัทฯ ให้แก่ประชาชนทั่วไป
- บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลของท่านหากเป็นหน้าที่ที่บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น ในกรณีซึ่งกฎหมาย หน่วยงานราชการและหน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย คณะกรรมการต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย หน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแล กำหนดให้บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลนั้น หรือบริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลอันเป็นส่วนหนึ่งของการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย บริษัทยังอาจจะเปิดเผยข้อมูลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ และการเปิดเผยนั้นจำเป็นและได้สัดส่วน
7. สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ในฐานะเจ้าของข้อมูล ท่านมีสิทธิ์สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
- สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสําเนาข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ รวมถึงการขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านในกรณีที่เป็นข้อมูลซึ่งท่านไม่ได้ให้ความยินยอมในการรวบรวมหรือจัดเก็บ
- สิทธิในการขอให้บริษัทฯ ดําเนินการปรับปรุงหรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
- สิทธิในการขอให้ระงับการ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการ ชั่วคราว
- สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน
- สิทธิในการขอให้ดําเนินการลบหรือทําลาย หรือทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในรูปแบบที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
- สิทธิในการถอนความยินยอม ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไว้แล้ว
- สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
บริษัทฯ จะดําเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 (สามสิบ) วันหลังจากที่ท่านมีคําขอดังกล่าวมาถึง บริษัทฯ หากท่านต้องการที่จะใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น กรุณาติดต่อมายังบริษัทฯ ที่ dpo-office@gettgo.co.th
8. คุกกี้
คุกกี้ (Cookies) คือ ข้อมูล text files บนคอมพิวเตอร์ที่เก็บรวบรวม standard internet log information และข้อมูลพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่าน
คุกกี้ (Cookies) เป็นไฟล์ขนาดเล็กที่เว็บไซต์หรือผู้ให้บริการมีการส่งไปอัดเก็บในคอมพิวเตอร์ ของท่านผ่านทางเว็บบราวเซอร์ (ถ้าท่านอนุญาต) ซึ่งช่วยให้ระบบของเว็บไซต์หรือผู้ให้บริการบราวเซอร์ของท่าน และสามารถจับและจดจําข้อมูลบางอย่าง รวมถึงข้อมูลพฤติกรรมการ เยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่าน อย่างไรก็ตามรหัสในไฟล์คุกกี้จะทําให้เว็บไซต์รู้เพียงว่าว่าท่านเป็นผู้ใช้โดยเฉพาะ แต่จะไม่สามารถระบุชื่อหรือที่อยู่หรือข้อมูลอื่นของท่านได้ เว้นแต่ท่านจะได้ให้ ข้อมูลดังกล่าวแก่เว็บไซต์หรือตั้งค่ากําหนดในบราวเซอร์โดยอัตโนมัติ ซึ่งทําให้เมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท บริษัทจะเก็บข้อมูลของท่านผ่านทางคุกกี้หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกันโดยอัตโนมัติ
ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับประเภทของคุกกี้ที่เราใช้งาน และข้อมูลอื่น ๆ ได้ที่ นโยบายคุกกี้และการตั้งค่า สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาดูใน www.aboutcookies.org
9. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวว่าด้วยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า
บริษัทสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขประกาศความเป็นส่วนตัวว่าด้วยข้อมูลส่วนบุคคลของคู่สัญญานี้ได้ตลอดเวลา กรณีที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ บริษัทจะนำข้อมูลใหม่มาปรับปรุงบนหน้าเว็บไซต์ https://gettgo.com/privacy-policy หรือ ตามช่องทางที่บริษัทเห็นว่าเหมาะสม ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568
10. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อตรวจสอบการดําเนินการที่เกี่ยวกับ การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และนโยบาย ระเบียบ ประกาศ คําสั่ง ของบริษัท รวมทั้งสานงานและให้ความร่วมมือกับสํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามข้อมูลการติดต่อได้ที่ dpo-office@gettgo.com