Niche Tourism คืออะไร ? ทำไมถึงตอบโจทย์นักเดินทางยุคใหม่

เขียนวันที่ 10/11/2025 หมวดหมู่ รอบรู้ประกันเดินทาง

ตัวอย่าง Niche Tourism คือการปีนผา

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักเดินทางทั่วโลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด จากเดิมที่การท่องเที่ยวมักเป็นแบบหมู่คณะและตามสถานที่ยอดนิยม มาเป็นการมองหาประสบการณ์ที่แปลกใหม่ เป็นส่วนตัว และตอบสนองความต้องการเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ปรากฏการณ์นี้เองที่ผลักดันให้ "การท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม" หรือ "Niche Tourism" คือเทรนด์การท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจอย่างก้าวกระโดด

Niche Tourism คืออะไร ?

Niche Tourism คือรูปแบบการท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจหรือมีวัตถุประสงค์เฉพาะเจาะจง แตกต่างจากการท่องเที่ยวทั่วไปที่มักเน้นจุดหมายปลายทางยอดนิยม โดย Niche Tourism จะให้ความสำคัญกับ “ประสบการณ์เฉพาะตัว” เช่น นักท่องเที่ยวที่หลงใหลในศิลปะ อาจเดินทางเพื่อตามรอยพิพิธภัณฑ์และงานศิลปะที่ซ่อนอยู่ในเมืองเล็ก ๆ ในขณะที่นักท่องเที่ยวสายผจญภัยอาจมุ่งหน้าสู่การปีนเขาหรือการดำน้ำสำรวจโลกใต้ทะเล การท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มเช่นนี้จึงเป็นมากกว่าการเดินทาง แต่เป็นการเติมเต็มความต้องการเฉพาะบุคคลและสร้างความทรงจำที่ไม่อาจหาได้จากการเดินทางแบบเดิม ๆ

เหตุผลที่ Niche Tourism ได้รับความนิยม

ความสำเร็จของ Niche Tourism มีที่มาจากหลายปัจจัย ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของค่านิยมและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวในยุคปัจจุบัน ดังนี้

ประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวและแตกต่าง

นักเดินทางยุคใหม่ต้องการมากกว่าการเช็กอินในสถานที่ดัง แต่แสวงหาประสบการณ์เฉพาะที่สะท้อนตัวตนและความสนใจของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมเวิร์กช็อปทำอาหารท้องถิ่นกับชาวบ้าน การเรียนรู้งานหัตถกรรมดั้งเดิม หรือการผจญภัยในธรรมชาติที่ห่างไกลผู้คน

เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น

นักท่องเที่ยวค้นหาข้อมูลจากทั่วโลกได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นทางบล็อก รีวิว วิดีโอ หรือโซเชียลมีเดีย จึงเกิดแรงบันดาลใจในการเดินทางตามความสนใจของตนเอง อีกทั้งแพลตฟอร์มการจองออนไลน์ยังช่วยให้การจัดการเดินทางแบบ DIY เป็นไปได้ง่ายขึ้น นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนการเดินทางที่เหมาะกับความต้องการได้อย่างอิสระ

เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์เติบโต

การท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มหลายรูปแบบเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เช่น งานศิลปะ ดนตรี งานหัตถกรรม และอาหาร นักท่องเที่ยวต้องการสัมผัสกับวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ของท้องถิ่นอย่างแท้จริง จึงไม่เพียงแค่ซื้อของที่ระลึกจากร้านค้าทั่วไป แต่ยังมีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่าง ๆ ของชุมชน ทำให้เกิดการกระจายรายได้ออกไปเป็นวงกว้าง และส่งเสริมให้การเดินทางมีความหมายมากยิ่งขึ้น

ตัวอย่าง Niche Tourism คือการเก็บใบชา

ตัวอย่างประเภทของ Niche Tourism ในประเทศไทย

ประเทศไทยถือเป็นจุดหมายปลายทางที่มีความหลากหลายสูง และสามารถรองรับ Niche Tourism ได้หลายแขนง ตัวอย่างที่โดดเด่นและกำลังเติบโต ได้แก่

การท่องเที่ยวเชิงเกษตร (Agro-tourism)

การท่องเที่ยวประเภทนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสวิถีชีวิตเกษตรกร เช่น การปลูกข้าว เก็บผลไม้ตามฤดูกาล หรือเรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์ในจังหวัดเชียงใหม่ นครปฐม และราชบุรี ซึ่งช่วยสร้างรายได้โดยตรงให้แก่ชุมชน

การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและเวลเนส (Health & Wellness Tourism)

ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่สำคัญของเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นการนวดแผนไทย สปา โยคะ การทำสมาธิ หรือการบำบัดด้วยการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หลายรีสอร์ตและโรงพยาบาลในไทยมีโปรแกรมดีท็อกซ์ โปรแกรมลดน้ำหนัก และการรักษาสุขภาพแบบองค์รวม

การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism)

อาหารไทยเป็นที่รู้จักและชื่นชอบไปทั่วโลก ส่งผลให้การท่องเที่ยวเชิงอาหารเป็นอีกหนึ่ง Niche Tourism ที่มีศักยภาพสูงมาก นักท่องเที่ยวที่หลงใหลในอาหารมักต้องการเรียนรู้วิธีการทำอาหาร ศึกษาเกี่ยวกับวัตถุดิบและเครื่องเทศต่าง ๆ รวมถึงการไปเยี่ยมชมตลาดสดและแหล่งผลิตอาหาร ทำให้คลาสสอนทำอาหารไทยได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวหลักอย่างกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต

การท่องเที่ยวเชิงกีฬาและผจญภัย (Sport & Adventure Tourism) 

การท่องเที่ยวเชิงกีฬาและผจญภัย เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความท้าทาย รวมถึงต้องการสัมผัสธรรมชาติและทัศนียภาพที่สวยงามของไทยในมุมมองที่แตกต่างออกไป ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำสำรวจแนวปะการังที่เกาะสิมิลันหรือเกาะเต่า การปีนหน้าผาที่กระบี่ การล่องแก่งที่แม่น้ำในภาคเหนือ การเดินป่าเขาใหญ่ การปั่นจักรยานเสือภูเขา จนถึงกีฬาทางน้ำต่าง ๆ เช่น ซัปบอร์ด เจ็ตสกี และเรือใบ

ผลกระทบเชิงบวกของ Niche Tourism

การเติบโตของ Niche Tourism นอกจากจะตอบสนองการสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ไม่ซ้ำใคร ยังสร้างประโยชน์อย่างมหาศาลต่อประเทศและชุมชนที่รองรับ ดังนี้

ช่วยกระจายรายได้

การท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มมักจะเกิดขึ้นที่เมืองรอง หรือพื้นที่ที่ไม่ได้เป็นจุดหมายหลัก ส่งผลให้เม็ดเงินการท่องเที่ยวกระจายไปยังชุมชนท้องถิ่นอย่างทั่วถึง แทนที่จะกระจุกตัวอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวหลักเพียงแห่งเดียว

อนุรักษ์วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม

การท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มส่งเสริมให้ผู้คนเห็นคุณค่าในวัฒนธรรมท้องถิ่นและธรรมชาติ ลดการทำลายสิ่งแวดล้อมจากการท่องเที่ยวเชิงปริมาณ รวมถึงชุมชนยังต้องรักษาวัฒนธรรม วิถีชีวิต และสภาพแวดล้อมดั้งเดิมเอาไว้ เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้อย่างยาวนานและยั่งยืน

ลดความแออัดของแหล่งท่องเที่ยวหลัก

เมื่อการท่องเที่ยวมีทางเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น นักท่องเที่ยวจะไม่จำเป็นต้องไปรวมตัวกันในสถานที่ยอดนิยมเท่านั้น นับเป็นการช่วยแบ่งเบาความหนาแน่นจากเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ หรือเชียงใหม่ และกระจายนักท่องเที่ยวไปยังจังหวัดเมืองรองรอบข้างอย่างมีประสิทธิภาพ

เพิ่มมูลค่าให้แก่การท่องเที่ยว

เมื่อเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ การท่องเที่ยวไทยสามารถสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกและดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติระดับพรีเมียมได้มากขึ้น

นอกจากการท่องเที่ยวแบบ Niche Tourism ในไทยแล้ว การได้ไปเรียนรู้วัฒนธรรมและผจญภัยยังต่างประเทศก็เป็นอีกหนึ่งความปรารถนาของนักท่องเที่ยวทั้งหลายด้วยเช่นกัน โดยมีหนึ่งสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม สำหรับคนที่มีแผนจะเดินทางไปต่างประเทศ คือการทำประกันเดินทาง กับ gettgo ซึ่งจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น การเจ็บป่วย การสูญเสียทรัพย์สิน หรือการถูกยกเลิกเที่ยวบิน คุณจะได้รับการดูแลอย่างรวดเร็วและครบถ้วน

หากสนใจ สามารถตรวจเช็กค่าเบี้ยประกันภัยได้ทันทีผ่านเว็บไซต์ของ gettgo หรือสอบถามเพิ่มเติมผ่าน LINE OA: @gettgo หรือโทร. 02-111-7800 

ข้อมูลอ้างอิง

บทความที่คุณอาจสนใจ