ก่อนจะไปท่องเที่ยวต่างประเทศทุกครั้ง สิ่งสำคัญที่จะทำให้ทริปของคุณเป็นไปอย่างสะดวกและราบรื่นคือการเตรียมตัวอย่างดี โดยเฉพาะในเรื่องของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ
แต่หลายคนที่มีแพลนจะไปเยือนแดนอาทิตย์อุทัยอาจยังสงสัยว่า ที่ญี่ปุ่นใช้ปลั๊กแบบไหน กระแสไฟฟ้าเท่าไร และเราจะสามารถนำอุปกรณ์จากเมืองไทยไปใช้งานที่นู่นได้หรือไม่ ? มาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ปลั๊กไฟญี่ปุ่นและกระแสไฟฟ้าที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างละเอียดกันเลย !
เต้าเสียบและปลั๊กญี่ปุ่นใช้แบบไหน เหมือนของไทยหรือไม่ ?
ไม่เหมือน เพราะหัวปลั๊กญี่ปุ่นเป็นแบบ Type A ซึ่งมีลักษณะเป็นขาคู่หัวแบน (Flat Blade) ในขณะที่ปลั๊กไฟส่วนใหญ่ปัจจุบันในประเทศไทยมีการปรับให้เป็นแบบ Type C (ขากลมสองขา) หรือแบบ Type B (ขาแบนสองขาและขากลมหนึ่งขาสำหรับสายดิน) ดังนั้น เต้ารับไฟฟ้าในญี่ปุ่นก็จะเป็นแบบรูเสียบสองช่องที่รองรับเฉพาะหัวปลั๊กแบบแบนสองขาเท่านั้น ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีปลั๊กแบบกลม หรือแบบที่มีขากลางจากไทยไม่สามารถเสียบกับเต้ารับญี่ปุ่นได้โดยตรง
หัวแปลงปลั๊กไฟ ไอเทมจำเป็นสำหรับนักเดินทาง
แม้ในโรงแรมระดับสากลหรือสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาติมาเยือนบ่อยครั้ง อาจจะมีเต้ารับแบบ Universal ที่รองรับปลั๊กไฟได้หลายรูปแบบ แต่ก็ไม่ควรคาดหวังว่าจะมีให้บริการทุกที่ แนะนำว่าควรเตรียมหัวแปลงปลั๊กไฟไปด้วย เพื่อให้ใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าในญี่ปุ่นได้อย่างไม่มีอุปสรรค โดยสามารถซื้อหัวแปลงสำหรับปลั๊กไฟญี่ปุ่นได้จากร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไป ห้างสรรพสินค้า หรือร้านสะดวกซื้อในไทย
สำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มค่าและมีแพลนเดินทางไปหลายประเทศ แนะนำให้ซื้อหัวแปลงปลั๊กไฟแบบ Universal Adapter ที่รองรับหัวปลั๊กได้หลายแบบ แม้ราคาอาจสูงกว่าแบบเฉพาะประเทศเล็กน้อย แต่ก็ช่วยประหยัดในระยะยาวและลดความยุ่งยากในการพกพาหัวแปลงหลายชิ้น
แต่ถ้าใครลืมนำหัวแปลงปลั๊กไฟมาเที่ยวด้วยก็ไม่ต้องกังวล ! เพราะสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่น อย่าง 7-Eleven, Family Mart หรือร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังอย่าง Bic Camera, Yodobashi Camera และ Don Quijote โดยมีราคาประมาณ 200-300 เยนสำหรับหัวแปลงปลั๊กไฟญี่ปุ่นแบบพื้นฐาน แต่ถ้าเป็นแบบ Universal จะมีราคาตั้งแต่ 1,000 เยนขึ้นไป
กระแสไฟฟ้าในญี่ปุ่นเป็นอย่างไร ?
นอกจากความแตกต่างของหัวปลั๊กญี่ปุ่นแล้ว อีกปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือความแตกต่างของกระแสไฟฟ้า โดยประเทศญี่ปุ่นใช้กระแสไฟฟ้าที่ 100V (โวลต์) ซึ่งน้อยกว่าประเทศไทยที่ใช้ 220V เกือบครึ่งหนึ่ง ความแตกต่างนี้อาจส่งผลกระทบต่อการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าที่นำไปจากไทย ดังนี้
- อุปกรณ์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากไฟฟ้าในญี่ปุ่นมีแรงดันต่ำกว่า อุปกรณ์บางชนิดจึงอาจทำงานได้ช้าลงหรือมีประสิทธิภาพลดลง เช่น เครื่องเป่าผมอาจเป่าลมได้ไม่แรงเท่าเดิม
- ไม่สามารถใช้งานได้เลย อุปกรณ์บางชนิดที่ออกแบบมาให้ใช้กับไฟฟ้า 220V โดยเฉพาะอาจไม่สามารถทำงานได้เลยเมื่อใช้กับไฟฟ้า 100V
- ความเสี่ยงต่อความเสียหาย การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่รองรับแรงดันไฟฟ้าที่แตกต่างอาจทำให้อุปกรณ์เสียหายได้
วิธีตรวจสอบกำลังไฟฟ้าของอุปกรณ์
ก่อนนำอุปกรณ์ไฟฟ้าไปใช้ในประเทศญี่ปุ่น ควรตรวจสอบว่าอุปกรณ์นั้นรองรับกระแสไฟฟ้า 100V หรือไม่ โดยมีวิธีตรวจสอบดังนี้
ดูจาก Adapter หรือหัวชาร์จ
สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือโน้ตบุ๊ก สามารถตรวจสอบได้จาก Adapter หรือหัวชาร์จ โดยดูที่ข้อมูลกำลังไฟฟ้าที่ระบุไว้
- หาก Adapter ระบุว่า “Input: 100-240V” แสดงว่าสามารถใช้ได้กับไฟฟ้าตั้งแต่ 100V ถึง 240V ซึ่งครอบคลุมทั้งระบบไฟฟ้าของญี่ปุ่น (100V) และไทย (220V) จึงสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องมีตัวแปลงแรงดันไฟฟ้า เพียงแค่ใช้หัวแปลงปลั๊กเท่านั้น
- หาก Adapter ระบุเฉพาะ “Input: 220-240V” แสดงว่าไม่รองรับการใช้งานกับไฟฟ้า 100V ของญี่ปุ่น จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์แปลงแรงดันไฟฟ้า (Voltage Converter) เพิ่มเติม
ทั้งนี้ โชคดีที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่ส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก กล้องถ่ายรูป หรืออุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ มักจะรองรับแรงดันไฟฟ้าตั้งแต่ 100V ถึง 240V ทำให้สามารถใช้งานในญี่ปุ่นได้โดยไม่มีปัญหา
ดูจากป้ายข้อมูลสินค้า
สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ เช่น เครื่องเป่าผม เครื่องหนีบผม หรืออุปกรณ์ให้ความร้อน สามารถตรวจสอบได้จากป้ายข้อมูลที่ติดอยู่กับตัวเครื่อง โดยดูที่ข้อมูลแรงดันไฟฟ้า (Voltage) ที่ระบุไว้
- - หากระบุว่า “100-240V” หรือ “100-220V” แสดงว่าสามารถใช้ได้กับระบบไฟฟ้าของญี่ปุ่น
- - หากระบุเฉพาะ “220V” หรือ “230V” แสดงว่าไม่รองรับการใช้งานกับระบบไฟฟ้าของญี่ปุ่น
ก่อนออกเดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่น นอกจากการเตรียมหัวแปลงปลั๊กไฟญี่ปุ่นและตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าให้รองรับกระแสไฟ 100V แล้ว อย่าลืมปกป้องตัวเองด้วยประกันเดินทางต่างประเทศที่มอบความคุ้มครองครอบคลุมทุกความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ การชดเชยกรณีกระเป๋าล่าช้าหรือสูญหาย และการยกเลิกหรือเลื่อนเที่ยวบิน
เลือกซื้อแผนประกันเดินทางต่างประเทศ ญี่ปุ่น ได้ง่าย ๆ ที่ gettgo แพลตฟอร์มที่รวบรวมแผนประกันจากบริษัทประกันภัยชั้นนำไว้ให้คุณเลือกตามความต้องการ ด้วยเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาท แต่ให้ความคุ้มครองสูงถึงหลักล้านบาท ตรวจเช็กเบี้ยประกันภัยได้ทันทีผ่านเว็บไซต์ หรือสอบถามเพิ่มเติมผ่าน LINE OA: @gettgo หรือโทร. 02-111-7800
ข้อมูลอ้างอิง
- ปลั๊กไฟญี่ปุ่น กระแสไฟฟ้าที่ญี่ปุ่น เขาใช้แบบไหนกันนะ??. สืบค้นเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 จาก https://www.japankakkoii.com/japan-travel/japan-plugs/.