ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่น เปรียบเสมือนช่วงเวลามหัศจรรย์ที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ภาพวาดสุดตระการตาให้เราได้ชื่นชม โดยเฉพาะในช่วงที่ใบไม้สีเขียวขจีค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นโทนสีเหลือง ส้ม และแดง ทั่วทั้งประเทศ จนก่อให้เกิดภาพบรรยากาศที่สวยงามแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่
ดังนั้น สำหรับใครก็ตามที่ฝันอยากสัมผัสความงามของใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นสักครั้ง เราได้รวบรวมทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ไว้ที่นี่แล้ว นับตั้งแต่ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเที่ยวชม การเตรียมตัวก่อนเดินทาง ตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวเด็ด ๆ ที่ไม่ควรพลาด ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทริปชมใบไม้แดงของคุณเป็นประสบการณ์ที่สนุกและพิเศษที่สุด
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น 2025
หากคุณกำลังวางแผนไปญี่ปุ่นในช่วงใบไม้แดง สิ่งสำคัญที่สุดคือการเช็กช่วงเวลาและสถานที่อย่างละเอียด ทั้งนี้เนื่องจากใบไม้จะเปลี่ยนสีแตกต่างกันไปตามสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศ
ระยะเวลาใบไม้แดงในแต่ละภูมิภาค
ในประเทศญี่ปุ่น ใบไม้จะเริ่มผลัดสีไม่พร้อมกันในแต่ละพื้นที่ โดยจะเริ่มต้นจากทางตอนเหนือและค่อย ๆ ไล่ลงมาทางใต้ตามลำดับ ดังต่อไปนี้
- ฮอกไกโด : ปลายเดือนกันยายน ถึงกลางเดือนตุลาคม
- โทโฮคุ : ต้นเดือนตุลาคม ถึงปลายเดือนตุลาคม
- โตเกียวและคันโต : กลางเดือนพฤศจิกายน ถึงต้นเดือนธันวาคม
- คันไซและเกียวโต : กลางเดือนพฤศจิกายน ถึงปลายเดือนพฤศจิกายน
- คิวชู : ปลายเดือนพฤศจิกายน ถึงต้นเดือนธันวาคม
การเช็กพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น ปี 2025
แม้จะมีช่วงเวลาคร่าว ๆ ของแต่ละพื้นที่แล้ว แต่เนื่องจากสภาพอากาศในแต่ละปีไม่เหมือนกัน จึงแนะนำให้หมั่นติดตามการพยากรณ์อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสามารถตรวจสอบข้อมูลล่าสุดได้จากเว็บไซต์ท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เชื่อถือได้ เช่น Japan Meteorological Corporation หรือแอปพลิเคชันที่ให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ทริปชมใบไม้แดงของคุณราบรื่นและได้เห็นความสวยงามในช่วงที่ดีที่สุด
การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
เมื่อได้ช่วงเวลาที่จะไปชมใบไม้แดงแล้ว อีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือการเตรียมตัวให้พร้อม ทั้งในส่วนของสัมภาระที่จำเป็นและเอกสารต่าง ๆ
เสื้อผ้าและอุปกรณ์ที่เหมาะสม
- เครื่องแต่งกาย : เลือกเสื้อผ้าที่ทั้งอบอุ่นและสวมใส่สบาย เช่น เสื้อแจ็กเก็ตน้ำหนักเบา ผ้าพันคอ และที่ขาดไม่ได้คือรองเท้าที่เหมาะกับการเดินท่องเที่ยวระยะไกล
- อุปกรณ์บันทึกภาพ : ควรเลือกกล้องที่ถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยได้ดี เพื่อเก็บภาพความประทับใจของใบไม้แดงได้ทุกช่วงเวลา โดยเฉพาะในช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน
- อุปกรณ์กันฝน : เนื่องจากในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีอาจมีฝนตกปรอยได้บ่อยครั้ง ดังนั้น จึงควรพกพาร่มพับหรือเสื้อกันฝนติดตัวไว้เสมอ
เตรียมเอกสารที่จำเป็น
เรื่องเอกสารถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมให้พร้อมก่อนเดินทาง โดยมีรายละเอียดดังนี้
- เอกสารการเดินทาง : สำหรับคนไทย สามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้โดยไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า หากอยู่ไม่เกิน 15 วัน ดังนั้น เตรียมเพียงหนังสือเดินทางที่มีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือนก็เพียงพอ
- เอกสารสำรอง : เพื่อความรอบคอบ ควรเตรียมสำเนาเอกสารสำคัญต่าง ๆ เช่น หนังสือเดินทางในหน้าที่มีข้อมูลสำคัญ บัตรประชาชน บัตรเครดิต รวมถึงเอกสารการจองที่พักและตั๋วเครื่องบิน โดยแนะนำให้แยกเก็บสำเนาไว้คนละที่กับเอกสารจริง และถ่ายภาพเก็บในโทรศัพท์มือถือหรือคลาวด์สำรองอีกชั้น
สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่นที่น่าสนใจ
หลังจากเตรียมตัวพร้อมแล้ว ก็ถึงเวลามาดูกันว่าจะไปชมใบไม้แดงที่ไหนดี ซึ่งเรารวบรวมจุดชมวิวสวย ๆ จากทั่วประเทศญี่ปุ่นมาให้เลือกกันแบบจุใจ มาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง
- ภูเขาโทวาดะ (ฮอกไกโด)
เริ่มต้นกันที่จุดชมวิวสุดพิเศษของเกาะฮอกไกโด ที่สวยที่สุดในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ไฮไลต์ของที่นี่คือภาพใบไม้แดงที่สะท้อนกับผิวน้ำในทะเลสาบโทวาดะอันเงียบสงบ เป็นบรรยากาศที่ชวนให้นั่งชมวิวได้ทั้งวัน
- วัดคิโยมิซุ (เกียวโต)
มาต่อกันที่มรดกโลกชื่อดังแห่งเกียวโต ที่นี่เขาเอาจุดเด่นของใบไม้แดงมาผสมผสานกับสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นโบราณได้อย่างลงตัว แถมยังมีจุดถ่ายรูปเด็ดอย่างระเบียงไม้ยื่นที่มีฉากหลังเป็นภูเขาสีแดงสดในฤดูใบไม้ร่วง ให้อารมณ์ย้อนยุคแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม
- สวนเมจิจิงกุ (โตเกียว)
สำหรับใครที่จะไปเที่ยวโตเกียว ก็ไม่ต้องน้อยใจ เพราะที่นี่ก็มีสวนสาธารณะที่น่าเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีไม่แพ้กัน โดยไฮไลต์จะอยู่ที่อุโมงค์ต้นแปะก๊วยสีทองที่ทอดยาวสองข้างทาง ทำให้การเดินเล่นในสวนกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำแบบสุด ๆ
- ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (ฟูจิ)
ปิดท้ายด้วยสถานที่ที่รวมของดีญี่ปุ่นไว้ในที่เดียว ทั้งใบไม้แดงและภูเขาไฟฟูจิอันเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ พอถึงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี คุณจะได้เห็นภาพใบไม้หลากสีตัดกับยอดภูเขาไฟที่ปกคลุมด้วยหิมะขาว ยิ่งทำให้ภูเขาไฟฟูจิที่สวยอยู่แล้ว ดูโดดเด่นมากขึ้นไปอีก
เคล็ดลับการเดินทาง
สุดท้ายนี้ เรามีทริกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะช่วยให้ทริปชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นในปี 2568 ที่จะถึงนี้ของคุณสะดวก และประหยัดขึ้น มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
- จองที่พักและตั๋วล่วงหน้า
เนื่องจากช่วงใบไม้แดงถือเป็นช่วงไฮซีซันของญี่ปุ่น จึงควรจองที่พักและตั๋วรถไฟล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 เดือน เพื่อให้ได้ที่พักในทำเลที่ดีและราคาที่ไม่แพงจนเกินไป รวมถึงที่นั่งบนรถไฟในเวลาที่ต้องการ
- ประหยัดด้วย JR Pass
สำหรับใครที่วางแผนจะเที่ยวหลายเมือง แนะนำให้ซื้อ JR Pass หรือตั๋วรถไฟแบบไม่จำกัดเที่ยว เพราะนอกจากจะประหยัดค่าเดินทางได้แล้ว ยังช่วยให้คุณเดินทางได้สะดวกสบายอีกด้วย
- แอปพลิเคชันช่วยเดินทาง
เพื่อความสะดวกในการเดินทาง อย่าลืมดาวน์โหลดแอปพลิเคชันสำคัญอย่าง Google Maps สำหรับไว้เดินทางทั่วไป และ Hyperdia สำหรับเช็กตารางรถไฟโดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยให้คุณวางแผนการเดินทางได้แม่นยำมากขึ้น
เมื่อวางแผนการเดินทางเรียบร้อยแล้ว อีกสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือการทำประกันการเดินทาง เพราะถึงแม้ญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่ปลอดภัย แต่เหตุไม่คาดคิดก็อาจเกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล ซึ่งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
ที่ gettgo เรามีประกันการเดินทางที่ครอบคลุมความเสี่ยงรอบด้าน ทั้งกรณีกระเป๋าสูญหาย เที่ยวบินล่าช้า อุบัติเหตุ การเจ็บป่วย รวมถึงการติดเชื้อ Covid-19 พร้อมบริการให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยค่าเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาท แต่ให้ความคุ้มครองสูงถึงหลักล้านบาท เพื่อให้คุณเที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น หากสนใจ สามารถตรวจสอบเบี้ยประกันภัยและสมัครรับความคุ้มครองได้ทันทีที่เว็บไซต์ของเรา
ข้อมูลอ้างอิง
- พยากรณ์ ใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น 2024 พร้อมจุดชมทั่วประเทศ. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 จาก https://www.mushroomtravel.com/page/autumn-in-japan/.