ประกันของเรา
บทความ
เกี่ยวกับ gettgo

ถึงเวลาแล้วหรือยัง...ที่จะหันมาให้ความสำคัญกับ ‘ประกันเดินทาง’

หันมาให้ความสำคัญกับ ประกันเดินทาง และการซื้อประกัน

ประกันเดินทางคือประกันภัยรูปแบบหนึ่งที่จะช่วยคุ้มครองนักท่องเที่ยว เมื่อไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศหรือแม้แต่ท่องเที่ยวอยู่ภายในประเทศ ซึ่งในปัจจุบันมีเพียงบางกลุ่มเท่านั้นที่รู้จักและเล็งเห็นความสำคัญของการทำประกันเดินทาง ว่าทำไมถึงควรทำในทุกครั้งที่เดินทางออกนอกประเทศ แต่สิ่งที่น่าสงสัยมากที่สุดคือเพราะเหตุใดคนส่วนมากถึงยังไม่ค่อยเข้าใจและตระหนักถึงความจำเป็น รวมถึงความสำคัญของการทำประกันการเดินทางมากนัก อาจเกิดจากความชะล่าใจ คาดไม่ถึง ความเชื่อว่าจะโชคดีตลอดไปหรือความเชื่อว่าจะไม่เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นรึเปล่า?


3 ความเข้าใจผิด คิดว่าประกันเดินทางไม่จำเป็น เมื่อไปเที่ยวต่างประเทศ

หากคุณคือคนที่กำลังเข้าใจและมีความคิดแบบนี้อยู่จริง ๆ นับว่าไม่แปลก ดูได้จากผลการวิจัย ‘Survey of Australians’’ Travel Insurance Behavior’ ซึ่งงานวิจัยนี้ได้ทำการสำรวจทัศนคติและมุมมองของชาวออสเตรเลียที่มีต่อการทำประกันเดินทาง และ Gettgo ได้ขอหยิบยก 3 ประเด็นหลักในงานวิจัยนี้มาพูดถึง

  1. “เกือบ 30% ของนักท่องเที่ยว คิดว่าไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องมีประกันเดินทางก็ได้ หากไปท่องเที่ยวในประเทศที่พัฒนาแล้ว อย่างประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศอังกฤษ”
  2. ขาดแคลนความรู้ว่านักท่องเที่ยวจะได้รับการคุ้มครองด้านใดบ้าง หากทำประกันเดินทาง ซึ่ง 27% ไม่มั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับการคุ้มครองจากค่ารักษาพยาบาลที่สูง และอย่างน้อย 40% ไม่มั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับการคุ้มครองหากไฟล์ทถูกยกเลิก (Flight Cancellation) หรือหากพาสปอร์ตโดนขโมย และของมีค่าสูญหาย มากกว่านั้น 65% คิดว่าประกันไม่ได้ครอบคลุมถึงภัยธรรมชาติ
  3. 52% คิดว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือและจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ หากเกิดเจ็บป่วยฉุกเฉิน ขณะอยู่ต่างประเทศ
     

ทำความเข้าใจใหม่ ประกันเดินทางให้ความคุ้มครองมากกว่าที่คิด

เมื่อเข้าใจผิด ได้เวลาทำความเข้าใจใหม่และทำความรู้จักกับสิ่งที่ประกันเดินทางมอบให้ นอกเหนือจากความเข้าใจที่ว่าประกันเดินทางให้ความคุ้มครอง แต่ว่าคุ้มครองแค่ไหน ด้านใดบ้าง เริ่มคุ้มครองตั้งแต่เมื่อไหร่ คุ้มค่าพอที่จะซื้อแล้วใช่ไหม


ความคุ้มครองที่จะได้รับ เมื่อทำประกันเดินทาง

  1. เริ่มคุ้มครองตั้งแต่เมื่อไหร่? ตั้งแต่ออกจากที่พัก(บ้านที่อยู่อาศัย)จนกลับถึงประเทศต้นทางโดยสวัสดิภาพ
  2. คุ้มครองการสูญหายของกระเป๋าเดินทางและทรัพย์สินส่วนตัวที่อยู่ในกระเป๋าเดินทาง ซึ่งจะคุ้มครองตลอดทริป ไม่ว่าจะหายที่ไหนก็ตาม ไม่เพียงแค่หายในสนามบินเท่านั้น และการคุ้มครองจะมีการชดเชยตาม เงื่อนไข ของกรมธรรม์ประกันภัยที่ได้ทำเอาไว้
  3. คุ้มครองคลอบคลุมถึงความล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง เป็นกรณีที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด และมักสร้างความหงุดหงิดให้กับนักท่องเที่ยวอย่างคุณไม่มากก็น้อย เพราะเมื่อมาถึงสนามบินปลายทาง แต่กระเป๋าเดินทางไม่ได้มาพร้อมกัน ทำให้เสียเวลารอ และบางทีอาจจะนานจนทำให้ต้องไปหาซื้อเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ใหม่ เพื่อให้เที่ยวต่อได้ ซึ่งประกันเดินทางได้ครอบคลุมถึงเรื่องนี้ และยินดีที่จะจ่ายคืนค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการซื้อของใหม่ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์เช่นเคย
  4. คุ้มครองเรื่องความล่าช้าของเที่ยวบิน (Flight Delayed) เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้บ่อยๆ อีกเช่นกัน พบจากผลการสำรวจสถิติของสนามบินที่เกิดไฟล์ทดีเลย์มากที่สุด ซึ่งในแถบเอเชีย (ปี 2017) คือ ประเทศฟิลิปปินส์ สัดส่วน 66.9% ตามมาด้วยประเทศมาเลเซีย สัดส่วน 66.3% ต่อมาคือประเทศเกาหลีใต้ 65.9% และรั้งท้ายปิดที่ประเทศฮ่องกง 63.2% ซึ่งเกิดจากปัจจัยต่างๆ มากมาย ถือเป็นเหตุสุดวิสัยเกินการคาดการณ์ และจะกระทบต่อนักท่องเที่ยวอย่างมาก ถ้าต้องเดินไปทางยังสนามบินเหล่านี้ ซึ่งประกันเดินทางก็ให้ความคุ้มครองถึงเรื่องไฟล์ทดีเลย์ด้วย หากเครื่องบินล่าช้าเกินกำหนด อาจทำให้นักท่องเที่ยวต้องหาที่พักเพื่อรอเครื่องบินมาในวันถัดไป ที่สำคัญประกันเดินทางจะทำหน้าที่ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายตรงนี้ ทำให้เคลมประกันได้ ไม่ต้องจ่ายเงินค่าโรงแรมเอง
  5. คุ้มครองการบอกเลิกการเดินทางและลดจำนวนวันเดินทาง แน่นอนว่าถ้าเกิดเรื่องนี้ขึ้น โดยที่ไม่ได้ทำประกันเดินทางไว้ จะทำให้นักท่องเที่ยวอาจต้องเสียค่าปรับหรือได้รับเงินคืนไม่ครบ และต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องจองเที่ยวบินใหม่ไว้เอง แต่ประกันเดินทางได้ดูแลครอบคลุมด้านนี้ด้วย ทำให้ช่วยซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายได้ไม่มากก็น้อย

ยังมีอีกหลายความคุ้มครองที่ประกันเดินทางจะคุ้มครองผู้เอาประกันภัย แต่ความคุ้มครองจะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์ที่นักท่องเที่ยวเลือก

หากต้องเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันเหล่านี้ ใครจะช่วยดูแล ถ้าไม่มีประกันเดินทาง

ประกันเดินทางจะมีความจำเป็นหรือไม่จำเป็นขึ้นอยู่กับความเข้าใจความเสี่ยงของแต่ละคน ถ้าสามารถรับความเสี่ยงได้มาก ประกันเดินทางอาจไม่จำเป็น แต่หากรับความเสี่ยงได้น้อย อยากมีคนที่คอยช่วยเหลือ คอยดูแลเป็นหลักประกันความมั่นใจตลอดทริป คำตอบคือประกันเดินทางจำเป็นมาก ซึ่งอาจกล่าวได้ถึงเหตุการณ์ที่เคยเป็นประเด็นข่าวดังในเมืองไทยเมื่อไม่นานมานี้ ที่มีนักท่องเที่ยวหญิงชาวไทย เกิดล้มป่วยขณะท่องเที่ยวอย่างสนุกสนานที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยทางบ้านต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่มากจนไม่อาจรับไหว…เพราะไม่ได้ทำประกันเดินทางไว้ก่อนออกเดินทาง

บทความที่คุณอาจสนใจ

สรุปชัด เอกสารในการทำพาสปอร์ตปี 2567 ต้องมีอะไรบ้าง
ประกันเดินทาง รับประกันถึงอายุเท่าไหร่
อัปเดตล่าสุด ! ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า สำหรับผู้ถือพาสปอร์ตไทย
ความคุ้มครอง ประกันชั้น 1 ประกันชั้น 2+ ประกันชั้น 2 คุ้มครองเฉพาะคู่กรณี ประกันชั้น 3+ ประกันชั้น 3 คุ้มครองเฉพาะคู่กรณี
รถชน(ไม่มีคู่กรณี)
รถชน(มีคู่กรณี)
ค่ารักษาพยาบาล
รถยนต์สูญหาย
ไฟไหม้
น้ำท่วม

เข้าสู่ระบบ

หากยังไม่มีบัญชีผู้ใช้ กรุณา สมัครสมาชิก

 

สมัครสมาชิก

หากเป็นสมาชิกอยู่แล้วกรุณา ลงชื่อเข้าใช้งาน

Loading..

กำลังดำเนินการ กรุณารอสักครู่ค่ะ 😊