ประกันของเรา
บทความ
เกี่ยวกับ gettgo

รถติดหล่ม ทำอย่างไร ? คู่มือแก้ปัญหารถติดหล่มโคลนด้วยตัวเอง

ในช่วงหน้าฝนหรือหากต้องเดินทางในพื้นที่ทุรกันดาร ปัญหา "รถติดหล่มโคลน" เป็นสถานการณ์ที่หลายคนอาจต้องเผชิญ การรู้วิธีแก้ไขปัญหารถติดหล่มเบื้องต้นด้วยตัวเอง จะช่วยให้คุณรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

รถติดหล่มโคลนอาจเกิดจากดินที่แฉะ และยางที่เสื่อมประสิทธิภาพ.jpg

 

สาเหตุของการที่รถติดหล่มโคลน

ลักษณะพื้นผิวถนนและสภาพแวดล้อม

พื้นผิวถนนที่เปียกแฉะจากฝนตกหนัก หรือดินที่อ่อนนุ่มในพื้นที่การเกษตร มักเป็นสาเหตุหลักของการที่รถติดหล่ม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการระบายน้ำไม่ดี หรือบริเวณที่มีการก่อสร้าง ซึ่งทำให้พื้นผิวถนนไม่มั่นคง

ประเภทยางรถและสภาพยาง

ยางรถที่ไม่เหมาะสมกับสภาพถนน หรือดอกยางที่สึกหรอ จะส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการยึดเกาะถนน อาจทำให้ล้อหมุนฟรีและจมลงในโคลนได้ง่าย นอกจากนี้ แรงดันลมยางที่ไม่เหมาะสมก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อการยึดเกาะถนนในสภาพพื้นผิวที่เปียกแฉะ

น้ำหนักของรถและการกระจายน้ำหนัก

น้ำหนักของรถและการกระจายน้ำหนักที่ไม่เหมาะสม เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รถติดหล่มได้ง่าย เมื่อรถบรรทุกน้ำหนักมากเกินไป แรงกดที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ล้อจมลงในพื้นผิวที่อ่อนนุ่มได้ลึกขึ้น และการกระจายน้ำหนักที่ไม่สมดุล เช่น การบรรทุกของหนักไว้ด้านใดด้านหนึ่งของรถ จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการติดหล่ม

เทคนิคการขับขี่ที่ไม่เหมาะสม

การขับขี่ในสภาพถนนที่เสี่ยงต่อการติดหล่ม ต้องอาศัยทักษะและประสบการณ์เฉพาะ การเร่งเครื่องแรงเกินไปเมื่อเจอพื้นที่เสี่ยง หรือการเบรกกะทันหันบนพื้นผิวที่อ่อนนุ่ม จะทำให้ล้อจมลงในโคลนได้ง่าย

วิธีแก้รถติดหล่ม : การประเมินสถานการณ์เบื้องต้น

การตรวจสอบความลึกของหล่มโคลน

เมื่อรถติดหล่ม สิ่งแรกที่ควรทำคือการประเมินความลึกของหล่มโคลนที่รถติดอยู่ โดยใช้ไม้หรืออุปกรณ์ที่เหมาะสมในการวัดความลึก การประเมินนี้จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ว่าสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ด้วยตัวเองหรือจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ

การประเมินสภาพพื้นที่โดยรอบ

การสำรวจพื้นที่โดยรอบเป็นขั้นตอนสำคัญในการวางแผนนำรถออกจากหล่ม โดยควรมองหาพื้นที่ที่มีความแข็งแรงพอที่จะใช้เป็นจุดยึดเกาะ หรือเส้นทางที่สามารถนำรถออกได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้การสังเกตทิศทางความลาดเอียงของพื้นที่และสิ่งกีดขวางต่าง ๆ จะช่วยให้วางแผนการแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การตรวจสอบอุปกรณ์ที่มี

อุปกรณ์ที่มีติดรถเป็นปัจจัยสำคัญในการแก้ไขสถานการณ์รถติดหล่ม ควรสำรวจว่ามีอุปกรณ์อะไรบ้างที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นรองล้อ เชือก แม่แรง หรืออุปกรณ์อื่น ๆ การรู้ว่ามีอุปกรณ์อะไรบ้างจะช่วยในการวางแผนแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม

การวางแผนแก้ไขปัญหา

การวางแผนที่ดี เป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการนำรถออกจากหล่ม ควรจัดลำดับขั้นตอนการแก้ไขปัญหาโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก พิจารณาการใช้อุปกรณ์และกำลังคนที่มีอย่างเหมาะสม และควรมีแผนสำรองเตรียมไว้หากวิธีแรกไม่ประสบความสำเร็จ การประเมินความเสี่ยงในแต่ละขั้นตอนจะช่วยป้องกันไม่ให้สถานการณ์แย่ลงกว่าเดิม

รถติดหล่ม ทำยังไง : วิธีแก้ไขด้วยตัวเอง

การแก้ไขปัญหารถติดหล่มด้วยตัวเอง ต้องอาศัยความระมัดระวังและการตัดสินใจที่ถูกต้อง

เทคนิคการเร่งเครื่องและบังคับพวงมาลัย

ให้ควบคุมการเร่งเครื่องยนต์อย่างเหมาะสม ไม่ควรเร่งเครื่องแรงทันทีเพราะจะทำให้ล้อหมุนฟรีและจมลึกลงไปในโคลนมากขึ้น แทนที่จะทำเช่นนั้น ให้ค่อย ๆ เหยียบคันเร่งเบา ๆ พร้อมกับหมุนพวงมาลัยไปมา เพื่อให้ดอกยางจับพื้นผิวได้ดีขึ้น

การใช้วัสดุเพิ่มแรงเสียดทาน

การเพิ่มแรงเสียดทานให้กับล้อรถ เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ สามารถทำได้โดยใช้แผ่นรองล้อหรือวัสดุที่มีผิวหยาบวางใต้ล้อ หากไม่มีอุปกรณ์เฉพาะ อาจใช้กิ่งไม้ ทราย หรือหินที่หาได้ในบริเวณนั้น มาวางในตำแหน่งที่ล้อจะเคลื่อนที่ไป เพื่อสร้างแรงยึดเกาะ

การลดน้ำหนักรถ

การลดน้ำหนักรถเป็นอีกวิธีที่สำคัญ เริ่มจากการนำสัมภาระที่ไม่จำเป็นออกจากรถ และให้ผู้โดยสารลงมาช่วยออกแรงดันรถ การจัดการกระจายน้ำหนักใหม่อาจจำเป็นในบางกรณี เพื่อให้น้ำหนักกดลงบนล้อขับเคลื่อนมากขึ้น

อุปกรณ์ช่วยเหลือเมื่อรถติดโคลน

การเตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือติดรถไว้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเดินทางในพื้นที่เสี่ยง อุปกรณ์พื้นฐานที่ควรมี ได้แก่

- แผ่นรองล้อ สำหรับเพิ่มแรงเสียดทาน 

- เชือกลากจูงที่แข็งแรง 

- พลั่วสำหรับขุดดิน ไฟฉายหรืออุปกรณ์ส่องสว่าง 

และการใช้งานอุปกรณ์แต่ละชนิดต้องทำอย่างถูกวิธีและระมัดระวัง ดังนี้

- การวางแผ่นรองล้อต้องวางในตำแหน่งที่เหมาะสม 

- การผูกเชือกต้องแน่น เพื่อความมั่นคงและปลอดภัย 

- การใช้พลั่วต้องระวังไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ 

  • หลังใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ควรทำความสะอาดและเก็บรักษาอุปกรณ์ให้พร้อมใช้งานในครั้งต่อไป

 

รถติดโคลนควรประเมินสถานการณ์ว่าสามารถแก้ด้วยตัวเองได้ หรือควรขอความ�.jpg

 

การขอความช่วยเหลือจากมืออาชีพ

เมื่อไรที่ควรเรียกรถยก

ในบางสถานการณ์ การขอความช่วยเหลือจากมืออาชีพอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด โดยเฉพาะเมื่อพยายามทุกวิธีแล้วไม่สำเร็จ สภาพพื้นที่เสี่ยงเกินไป รถจมลึกมากเกินกว่าจะแก้ไขเองได้ หรือเมื่อไม่มีอุปกรณ์ที่เหมาะสม การติดต่อบริการรถยกหรือหน่วยกู้ภัยในพื้นที่เป็นสิ่งที่ควรทำโดยเร็ว

การเตรียมข้อมูลสำหรับแจ้งผู้ช่วยเหลือ และติดต่อบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน

การเตรียมข้อมูลสำหรับแจ้งแก่ผู้ช่วยเหลือเป็นสิ่งสำคัญ ควรระบุตำแหน่งที่แน่นอนของรถโดยใช้แอปพลิเคชันแผนที่หรือจุดสังเกตที่ชัดเจน อธิบายสภาพแวดล้อมและการเข้าถึงพื้นที่ รวมถึงแจ้งรุ่นและขนาดของรถ ตลอดจนสภาพความเสียหายเบื้องต้นที่พบ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ทีมช่วยเหลือเตรียมอุปกรณ์และวางแผนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น

เรื่องค่าใช้จ่ายเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง ค่าบริการรถยกหรือกู้ภัยจะแตกต่างกันไปตามระยะทาง ความยากง่ายในการกู้รถ และช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ควรสอบถามราคาโดยประมาณก่อนตัดสินใจใช้บริการ และตรวจสอบว่าประกันรถยนต์ของคุณครอบคลุมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินหรือไม่

การป้องกันรถติดหล่มโคลน

การเลือกเส้นทางที่ปลอดภัย

การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข การเลือกเส้นทางที่ปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก ควรศึกษาเส้นทางล่วงหน้าผ่านแผนที่และข้อมูลสภาพอากาศ หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีความเสี่ยงสูงโดยเฉพาะในช่วงฝนตกหนัก หากจำเป็นต้องผ่านพื้นที่เสี่ยง ควรสังเกตพฤติกรรมของรถคันอื่นและเลือกแนวเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุด

การเตรียมรถให้พร้อมก่อนเดินทาง

ควรตรวจสอบสภาพยางอย่างสม่ำเสมอ ทั้งความลึกของดอกยางและแรงดันลมยาง ระบบเบรกและช่วงล่างต้องอยู่ในสภาพดี น้ำมันเครื่องและของเหลวต่าง ๆ ต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม

เทคนิคการขับขี่ในพื้นที่เสี่ยง

ควรรักษาความเร็วที่สม่ำเสมอ ไม่เร่งหรือเบรกกะทันหัน เลือกใช้เกียร์ที่เหมาะสมกับสภาพถนน โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้เกียร์ต่ำเพื่อให้มีแรงบิดเพียงพอและควบคุมรถได้ดีขึ้น และการสังเกตพฤติกรรมของรถคันอื่นก็จะช่วยให้เราประเมินสถานการณ์และหลีกเลี่ยงจุดเสี่ยงได้ดีขึ้น

การวางแผนเส้นทางล่วงหน้า

การวางแผนเส้นทางล่วงหน้าเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม นอกจากการศึกษาเส้นทางหลักแล้ว ควรเตรียมเส้นทางสำรองไว้ด้วย ศึกษาจุดแวะพักและสถานีบริการน้ำมันตลอดเส้นทาง รวมถึงจุดที่สามารถขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน

 

การเตรียมพร้อมและรู้วิธีแก้ไขปัญหารถติดหล่มเบื้องต้น เป็นทักษะสำคัญสำหรับผู้ขับขี่ทุกคน นอกจากนี้ การมีประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือสูงกว่า คือทางเลือกที่จะให้ความคุ้มครองรถได้อย่างครอบคลุม เลือกแผนประกันที่เหมาะกับคุณได้ที่ gettgo วันนี้ เพื่อการเดินทางที่อุ่นใจในทุกเส้นทาง หากสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.02-111-7800 หรือ LINE OA: @gettgo

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Car Stuck in Mud? These Methods Will Get You Unstuck. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 จาก https://www.evanshalshaw.com/blog/what-to-do-if-your-car-is-stuck/ 

บทความที่คุณอาจสนใจ

ประกัน 2+ รายเดือน VS ผ่อนเงินสดประกันรายปี เลือกแบบไหนดี?
รวมสาระน่ารู้เกี่ยวกับระบบพวงมาลัยรถยนต์ที่นักขับขี่ควรอ่าน
เผย 5 สาเหตุที่ทำให้แอร์รถยนต์ไม่เย็น เปิดมามีแต่ลม
ความคุ้มครอง ประกันชั้น 1 ประกันชั้น 2+ ประกันชั้น 2 คุ้มครองเฉพาะคู่กรณี ประกันชั้น 3+ ประกันชั้น 3 คุ้มครองเฉพาะคู่กรณี
รถชน(ไม่มีคู่กรณี)
รถชน(มีคู่กรณี)
ค่ารักษาพยาบาล
รถยนต์สูญหาย
ไฟไหม้
น้ำท่วม

เข้าสู่ระบบ

หากยังไม่มีบัญชีผู้ใช้ กรุณา สมัครสมาชิก

 

สมัครสมาชิก

หากเป็นสมาชิกอยู่แล้วกรุณา ลงชื่อเข้าใช้งาน

Loading..

กำลังดำเนินการ กรุณารอสักครู่ค่ะ 😊

ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

    ข้าพเจ้ายินยอมให้บริษัท เมืองไทย โบรกเกอร์ จำกัด  (“บริษัท”)
เก็บรวบรวมใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าเพื่อการนำเสนอโปรโมชั่น สิทธิพิเศษ ข่าวสาร ผลิตภัณฑ์ บริการ จากบริษัท รวมถึงการพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ การวิเคราะห์ วิจัย ทำสถิติจากบริษัท และ/หรือบริษัทในเครือและพันธมิตรทางธุรกิจ และเพื่อโอกาสที่ข้าพเจ้าจะได้รับข้อเสนอ บริการพิเศษ โปรโมชั่น หรือผลิตภัณฑ์ที่คัดสรรมาอย่างเหมาะสมจากบริษัทในเครือและพันธมิตรทางธุรกิจ ข้าพเจ้ายินยอมให้เปิดเผยข้อมูลของข้าพเจ้าให้แก่บริษัทดังกล่าว เพื่อวิเคราะห์ตลอดจนการนำเสนอ ผลิตภัณฑ์และบริการ 

การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล 

    ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
    บริษัทจะดำเนินการอย่างดีที่สุดในการรักษาความลับและดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัย คุณสามารถเลือกให้หรือไม่ให้ความยินยอมโดยไม่มีผลต่อการพิจารณาผลิตภัณฑ์หรือบริการ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เว็บไซต์ https://gettgo.com/privacy-policy
ทั้งนี้คุณสามารถเปลี่ยนแปลงการให้ความยินยอมได้ โดยติดต่อเราที่ email : dpo-office@mtb.co.th หรือโทร 02-693-2775 (DPO)
     การที่คุณยอมรับตามด้านล่างนี้ถือว่าคุณได้ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้
และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามที่ได้กำหนดไว้ข้างต้น