ประกันของเรา
บทความ
เกี่ยวกับ gettgo

ทำไมแผ่นกรองอากาศรถยนต์ถึงสำคัญ และควรเปลี่ยนเมื่อไร

แผ่นกรองอากาศรถยนต์ควรเปลี่ยนตอนไหน

 

เชื่อว่าสำหรับคนที่ขับขี่รถยนต์เป็นประจำ คงเอะใจทุกครั้งเมื่อเห็นสิ่งผิดปกติต่าง ๆ เกิดขึ้นกับยานพาหนะของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่รักรถยนต์ ที่ต้องคำนึงถึงสมรรถนะและความปลอดภัยในการขับขี่ ย่อมที่จะเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์ในส่วนต่าง ๆ ตามอายุการใช้งานอยู่เสมอ แต่มักจะมีชิ้นส่วนหนึ่งของรถยนต์ที่ถูกมองข้ามไป และหลายคนก็ไม่ได้เปลี่ยนเมื่อถึงเวลา ซึ่งก็คือแผ่นกรองอากาศรถยนต์นั่นเอง

ดังนั้น เราจะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับแผ่นกรองอากาศรถยนต์ และมาบอกกันว่าแผ่นกรองอากาศรถยนต์นั้นสำคัญอย่างไร และควรเปลี่ยนตอนไหน

หน้าที่ของแผ่นกรองอากาศรถยนต์

แผ่นกรองอากาศรถยนต์ หรือที่หลายคนเรียกกันว่าไส้กรองอากาศ เป็นชิ้นส่วนที่ช่วยดักจับสิ่งสกปรกและฝุ่นละอองในอากาศ ไม่ให้เข้าไปในเครื่องยนต์ เพื่อปกป้องสมรรถนะในการทำงานของเครื่องยนต์ ให้คุณสามารถขับขี่รถยนต์ได้อย่างมั่นใจ

แผ่นกรองอากาศรถยนต์มีกี่แบบ

     • แผ่นกรองอากาศแบบเปียก

แผ่นกรองอากาศแบบเปียกเป็นที่นิยมใช้กันในรถยนต์รุ่นเก่า มีลักษณะเป็นแผ่นกรองที่เคลือบน้ำมันไว้ เพื่อทำหน้าที่ในการดักจับฝุ่นหนัก ส่วนฝุ่นผงขนาดเล็กรวมถึงฝุ่นละอองต่าง ๆ จะถูกปล่อยให้ผ่านไป แล้วจึงถูกกรองด้วยตะแกรงที่อยู่ด้านในอีกชั้น

     • แผ่นกรองอากาศแบบแห้ง

แผ่นกรองอากาศแบบแห้งที่มักใช้กันในรถยนต์รุ่นใหม่ ผลิตจากเส้นใยสังเคราะห์ ทั้งเส้นใยพืชและขนสัตว์ ตามแต่ที่ผู้ผลิตจะเลือกมาเป็นส่วนประกอบของรถยนต์ ส่วนใหญ่เมื่อใช้งานไปได้สักระยะ สามารถถอดออกมาทำความสะอาด และนำกลับไปใช้งานใหม่ได้

     • แผ่นกรองอากาศชนิดเคลือบด้วยสารที่มีความหนืด

แผ่นกรองอากาศชนิดเคลือบด้วยสารที่มีความหนืด เป็นแผ่นกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพในการดักจับฝุ่นละอองได้มากกว่าแผ่นกรองปกติ ออกแบบมาสำหรับใช้งานกับรถยนต์ที่ดัดแปลงเครื่องยนต์ สามารถถอดมาล้างทำความสะอาดและเคลือบน้ำยา เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้เช่นกัน

แผ่นกรองอากาศรถยนต์ ควรเปลี่ยนเมื่อใด ราคาเท่าไร

ในส่วนของการเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศเครื่องยนต์นั้น ควรเปลี่ยนเมื่อใช้รถยนต์ไปแล้วทุก ๆ 20,000-40,000 กิโลเมตร โดยปกติราคาค่าเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศจะอยู่ที่ประมาณ 300-1,000 บาทขึ้นไป ตามแต่ละยี่ห้อของแผ่นกรองอากาศรถยนต์และศูนย์รถยนต์ที่ให้บริการ

ผลกระทบจากการไม่เปลี่ยนแผ่นกรองอากาศรถยนต์

หากเจ้าของรถยนต์ไม่เคยถอดแผ่นกรองอากาศมาทำความสะอาดเลย หรือใช้งานมาแล้วเป็นเวลานาน เกินกว่าอายุการใช้งานที่กำหนด ถ้าไม่เปลี่ยนใหม่ จะส่งผลให้เครื่องยนต์อุดตันด้วยเศษฝุ่นและสิ่งสกปรก จนส่งผลเสียต่อการทำงานของเครื่องยนต์ได้ในหลายประการ ดังนี้

     • กำลังเครื่องตก เร่งเครื่องไม่ค่อยขึ้น

     • เครื่องยนต์มีเสียง รอบเดินเบาของเครื่องยนต์ผิดปกติ

     • สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น

     • สำหรับเครื่องยนต์เบนซินจะมีกลิ่นไอน้ำมันออกมา ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลจะมีควันดำหรือเขม่าดำออกจากท่อไอเสีย เนื่องจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์

     • เครื่องยนต์สตาร์ตติดยาก มีอาการสั่น

     • เครื่องยนต์มีเสียงดัง และมีปัญหาในการดูดอากาศ

 

วิธีเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศเครื่องยนต์

 

วิธีเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศด้วยตัวเอง

สำหรับการเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศด้วยตัวเอง มีขั้นตอนในการปฏิบัติ ดังต่อไปนี้

  1. เปิดฝากระโปรงรถยนต์ขึ้น แล้วมองหาหม้อกรองอากาศ ซึ่งจะอยู่ติดกับลิ้นปีกผีเสื้อ
  2. ถอดกิ๊บล็อกหม้อกรองอากาศ แล้วเปิดฝาออก จะพบกับแผ่นกรองอากาศรถยนต์
  3. หากแผ่นกรองยังไม่สกปรก สามารถเคาะฝุ่นทำความสะอาด แล้วนำไปใช้ใหม่ได้ แต่ถ้าแผ่นกรองอากาศมีฝุ่นละอองเกาะอยู่หนา หรือถึงเวลาที่ควรต้องเปลี่ยน แนะนำให้ถอดแผ่นกรองอากาศเก่าออก และใส่แผ่นกรองอากาศใหม่เข้าไปแทนที่ได้เลย 

การเปลี่ยนอะไหล่และแผ่นกรองอากาศรถยนต์เป็นประจำเมื่อถึงกำหนดครบอายุการใช้งาน จะช่วยให้รถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ และหากต้องการเพิ่มความอุ่นใจในการขับขี่รถยนต์ก็ทำได้ง่าย ๆ ด้วยการทำประกันรถรายเดือน ค่าเบี้ยเบา ๆ แต่ดูแล 30 วันเต็ม เพื่อแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน หากสนใจสามารถเลือกซื้อประกันรถรายเดือนในราคาที่ใช่ และความคุ้มครองคุ้มค่าทางออนไลน์ได้เลยที่ gettgo หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-111-7800 หรือ LINE OA : @gettgo

ข้อมูลอ้างอิง

  1. รู้หรือไม่ ไส้กรองอากาศ ควรเปลี่ยนทุกๆ กี่เดือน. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 จาก https://www.cartrack.co.th/blog/ruuhruue-aim-aiskr-ng-aakaas-khwrepliiynthuk-kiieduue-n
  2. มือใหม่หัดเอ๊ะ! ไส้กรองอากาศ สิ่งเล็กๆ ที่ไม่ควรมองข้ามก่อนเครื่องยนต์อายุการใช้งานสั้นลง. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 จาก https://www.pttfitauto.com/th/other/knowledge/166263596714157
  3. ไส้กรองอากาศ สำคัญมากแค่ไหน ?. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 จาก https://www.rungwattana.com/article/4/ไส้กรองอากาศ-สำคัญมากแค่ไหน
  4. จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่เปลี่ยนแผ่นกรองอากาศเครื่องยนต์. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 จาก https://cockpit.co.th/post/275/
  5. จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่เปลี่ยนแผ่นกรองอากาศเครื่องยนต์ ทำความสะอาดไส้กรองอากาศรถยนต์ อย่างง่าย ๆ ไม่กี่ขั้นตอน. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 จาก https://mitsurma.com/how-to-clean-car-air-filter/#:~:text=แผ่นกรองอากาศเคลือบด้วย,จะยังคงไหลผ่าน

บทความที่คุณอาจสนใจ

ทำไมคนถึงไม่นิยมใช้ประกันชั้น 3?
เปิดไกด์ความปลอดภัย ลดเสี่ยงอุบัติเหตุรถล้มสำหรับสายทัวร์ริง
ต่อประกันรถยนต์ต้องทำอย่างไรบ้าง
ความคุ้มครอง ประกันชั้น 1 ประกันชั้น 2+ ประกันชั้น 2 คุ้มครองเฉพาะคู่กรณี ประกันชั้น 3+ ประกันชั้น 3 คุ้มครองเฉพาะคู่กรณี
รถชน(ไม่มีคู่กรณี)
รถชน(มีคู่กรณี)
ค่ารักษาพยาบาล
รถยนต์สูญหาย
ไฟไหม้
น้ำท่วม

เข้าสู่ระบบ

หากยังไม่มีบัญชีผู้ใช้ กรุณา สมัครสมาชิก

 

สมัครสมาชิก

หากเป็นสมาชิกอยู่แล้วกรุณา ลงชื่อเข้าใช้งาน

Loading..

กำลังดำเนินการ กรุณารอสักครู่ค่ะ 😊

ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

    ข้าพเจ้ายินยอมให้บริษัท เมืองไทย โบรกเกอร์ จำกัด  (“บริษัท”)
เก็บรวบรวมใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าเพื่อการนำเสนอโปรโมชั่น สิทธิพิเศษ ข่าวสาร ผลิตภัณฑ์ บริการ จากบริษัท รวมถึงการพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ การวิเคราะห์ วิจัย ทำสถิติจากบริษัท และ/หรือบริษัทในเครือและพันธมิตรทางธุรกิจ และเพื่อโอกาสที่ข้าพเจ้าจะได้รับข้อเสนอ บริการพิเศษ โปรโมชั่น หรือผลิตภัณฑ์ที่คัดสรรมาอย่างเหมาะสมจากบริษัทในเครือและพันธมิตรทางธุรกิจ ข้าพเจ้ายินยอมให้เปิดเผยข้อมูลของข้าพเจ้าให้แก่บริษัทดังกล่าว เพื่อวิเคราะห์ตลอดจนการนำเสนอ ผลิตภัณฑ์และบริการ 

การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล 

    ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
    บริษัทจะดำเนินการอย่างดีที่สุดในการรักษาความลับและดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัย คุณสามารถเลือกให้หรือไม่ให้ความยินยอมโดยไม่มีผลต่อการพิจารณาผลิตภัณฑ์หรือบริการ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เว็บไซต์ https://gettgo.com/privacy-policy
ทั้งนี้คุณสามารถเปลี่ยนแปลงการให้ความยินยอมได้ โดยติดต่อเราที่ email : dpo-office@mtb.co.th หรือโทร 02-693-2775 (DPO)
     การที่คุณยอมรับตามด้านล่างนี้ถือว่าคุณได้ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้
และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามที่ได้กำหนดไว้ข้างต้น