เข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาวอีกครั้ง พบกับการกลับมาของอีกหนึ่งโรคยอดฮิตตลอดกาลอย่าง RSV หรือ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV นั่นเองค่ะ สำหรับใครที่ไม่ค่อยคุ้นชื่อโรคนี้ก็ไม่แปลกเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่พบในเด็กเล็ก ซึ่งเหล่าคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกน่าจะคุ้นหูกันดีค่ะ
🔎 “ไวรัส RSV ติดต่อง่าย ภัยร้ายใกล้ตัวลูก”
อาการของโรค RSV นี้คล้าย ๆ ไข้หวัดค่ะ แต่ก่อให้เกิดความรุนแรงถึงขั้นปอดอักเสบได้เลย แพร่ระบาดเยอะในเด็กที่อายุต่ำกว่า 3 ปี ติดต่อได้ง่ายจากสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย น้ำมูก เสมหะ
โดยการรักษาโรค RSV นั้น จะเป็นการรักษาตามอาการไปก่อน เนื่องจากยังไม่มีวัคซีนป้องกันให้หายขาดได้ หากเชื้อไม่รุนแรงก็หายเองได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ค่ะ แต่ปัญหาใหญ่คือหากติดเชื้อรุนแรงเมื่อไหร่ ก็ไม่วายต้องแอดมิทที่ รพ. หลายวัน และสิ่งที่พ่วงสอยห้อยท้ายมาด้วยก็คือ ค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงมากจนน่าตกใจ
🔎 “เพราะค่ารักษาสูง ประกันสุขภาพที่ครอบคลุมคือคำตอบ”
ยกตัวอย่างค่ารักษาสุดช็อคจากเคสหนึ่งในกระทู้พันทิป หมายเลข 32483024 โดยคุณ Sherlockoam ที่ลูกน้อยป่วยด้วยโรค RSV ต้องแอดมิทนอน รพ. เอกชนแห่งหนึ่งถึง 11 วัน แค่ค่าห้องอย่างเดียวก็ 30,000 กว่าบาทแล้ว ยังไม่รวมค่ารักษาพยาบาลอื่น ๆ เช่น ค่าแพทย์ ค่ายา ค่าอุปกรณ์พิเศษอีกนะคะ
โดยค่ารักษาทั้งหมดในครั้งนี้สิริรวมแล้วเป็นเงิน 196,714 บาท คำถามที่น่าฉุกคิดคือ หากคุณพ่อคุณแม่เลือกประกันที่ไม่ครอบคลุมและวงเงินไม่เพียงพอ หรือในกรณีที่แย่กว่านั้นคือไม่มีประกันสุขภาพใด ๆ เลย gettgo คาดว่าคงหนีไม่พ้นการไปกู้หนี้ยืมสินมาจ่ายค่ารักษาแน่นอนเลยล่ะค่ะ
🔎 ควรเลือกประกันแบบไหน ให้ครอบคลุม "RSV"
#gettrick วันนี้ ก็มีทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการทำประกันสุขภาพมาให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นกันด้วยค่ะ
1. “เลือกประกันที่เหมาะสม” ทั้งเบี้ยประกัน ทุนประกัน และการรักษาที่ครอบคลุมทุก ๆ ความต้องการ อย่าลืมประเมินความเสี่ยงเผื่อไว้ให้ลูกน้อยด้วยนะคะ ไม่งั้นต้องมากุมขมับทีหลังแน่นอนค่ะ
2. “ทำก่อนป่วย” ทุกประกันสุขภาพต้องทำในตอนที่ “สุขภาพดี” เสมอ เพราะมีระยะรอคอย 30 วัน เพื่อป้องกันการป่วยก่อนทำประกันนั่นเองค่ะ
และขอเน้นย้ำเลยว่าหากลูกเคยป่วยด้วยไวรัส RSV มาก่อน แล้วอยากทำประกันภายหลัง บริษัทประกันจะไม่คุ้มครองโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจให้นะคะ เนื่องจากเด็กที่เคยเข้ารับการรักษาโรค RSV จะป่วยค่อนข้างบ่อย เป็นสาเหตุให้ไม่คุ้มครองในโรคนี้นั่นเองค่ะ
3. เลือกบริษัทประกันที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้ให้ทุกคนในครอบครัว ควรเปรียบเทียบแผนประกันที่เหมาะสมกับตัวเราที่สุดนะคะ gettgo ก็เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่พร้อมช่วยเหลือทุกปัญหาในการเลือกซื้อประกันค่ะ
gettgo เคยเปรียบเทียบแผนประกันสำหรับเด็ก ในงบ 50,000 บาทต่อปีไว้แล้ว ยิ่งช่วงไวรัส RSV กำลังระบาดแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่ต้องรีบตัดสินใจทำไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ นะคะ เปรียบเทียบแผนประกันเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> gettgo.com/blog/health-children
สุดท้ายนี้ เราเลือกโรคภัยไม่ได้ แต่โรคภัยเลือกเราได้นะคะ เลี่ยงความเสี่ยงทุกค่าใช้จ่ายในการรักษาตั้งแต่วันนี้ ด้วยการเลือกประกันสุขภาพที่คุ้มครองโรค RSV ไม่ว่าค่าห้อง ค่ายา ค่ารักษาโหดแค่ไหน คุณพ่อคุณแม่ก็ไร้กังวลได้ค่ะ