การเดินทางไกลด้วยรถยนต์ เป็นตัวเลือกยอดนิยมของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยว กลับบ้านต่างจังหวัด หรือเดินทางเพื่อธุรกิจ การเช็กรถก่อนเดินทางจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย แต่หลายคนอาจไม่ทราบว่าสาเหตุของอุบัติเหตุบนท้องถนนกว่า 25% มาจากความบกพร่องของตัวรถ ซึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยการตรวจสภาพรถก่อนเดินทางไกล
จุดตรวจสอบสำคัญ 10 จุด เช็กรถก่อนออกเดินทาง
1. ระบบเบรก
ระบบเบรก ถือเป็นหัวใจสำคัญของความปลอดภัยในการขับขี่ การเช็กสภาพรถก่อนเดินทางไกลควรตรวจสอบน้ำมันเบรกให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม สังเกตการทำงานของเบรกว่ามีอาการผิดปกติหรือไม่ เช่น เสียงดังขณะเบรก แรงเบรกไม่เท่ากัน หรือต้องเหยียบแป้นเบรกลึกกว่าปกติ หากพบความผิดปกติควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ
2. น้ำมันเครื่องและน้ำมันหล่อลื่น
น้ำมันเครื่อง ทำหน้าที่หล่อลื่นชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ ควรตรวจสอบระดับและคุณภาพของน้ำมันเครื่องให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสม โดยดูจากก้านวัดน้ำมันเครื่องซึ่งระดับควรอยู่ระหว่างขีด MIN และ MAX นอกจากนี้ควรตรวจสอบน้ำมันเกียร์และน้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ด้วย
3. ระบบระบายความร้อน
เครื่องยนต์ต้องการการระบายความร้อนที่ดีโดยเฉพาะในการเดินทางไกล จึงควรตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นในหม้อน้ำและถังพักให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม สังเกตการรั่วซึมของท่อยางและข้อต่อต่าง ๆ รวมถึงตรวจสอบการทำงานของพัดลมระบายความร้อน
4. ยางรถยนต์และยางอะไหล่
การเช็กรถก่อนเดินทางไกลควรตรวจสอบสภาพดอกยางทั้ง 4 ล้อและยางอะไหล่ ดอกยางควรมีความลึกไม่ต่ำกว่า 1.6 มิลลิเมตร ไม่มีการฉีกขาดหรือบวม ตรวจสอบแรงดันลมยางให้เหมาะสมตามคู่มือรถ การปรับตั้งศูนย์ล้อที่ไม่ดีอาจทำให้ยางสึกไม่เท่ากันและสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
5. แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ที่อ่อนกำลังอาจทำให้สตาร์ตรถไม่ติดระหว่างทาง จึงควรตรวจสอบอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ระดับน้ำกลั่น และความสะอาดของขั้วแบตเตอรี่ หากพบคราบขาวที่ขั้วแบตเตอรี่ควรทำความสะอาดและทาจาระบีป้องกันการกัดกร่อน
6. ไฟส่องสว่างและสัญญาณไฟต่าง ๆ
ตรวจสอบการทำงานของไฟทุกดวง ทั้งไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรก ไฟเลี้ยว และไฟฉุกเฉิน หลอดไฟที่แสงสว่างน้อยลงควรเปลี่ยนใหม่ เพราะแสงสว่างที่เพียงพอช่วยให้มองเห็นและสื่อสารกับรถคันอื่นได้ชัดเจน
7. เข็มขัดนิรภัย
ตรวจสอบการทำงานของเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง สายรัดต้องไม่ฉีกขาดหรือเสื่อมสภาพ กลไกล็อกต้องทำงานได้ดี ไม่หลวมหรือติดขัด เพราะเข็มขัดนิรภัยเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยลดความรุนแรงของการบาดเจ็บเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
8. ที่ปัดน้ำฝนและน้ำฉีดกระจก
ยางที่ปัดน้ำฝนควรอยู่ในสภาพดี ไม่แข็งกระด้างหรือฉีกขาด ปัดน้ำได้สะอาดไม่เป็นรอย ตรวจสอบระดับน้ำฉีดกระจกและเติมให้เพียงพอ ทดสอบการทำงานของมอเตอร์ฉีดน้ำว่าแรงดันเพียงพอและฉีดกระจายน้ำได้ทั่วถึง
9. ระบบปรับอากาศ
ความเย็นที่เพียงพอช่วยให้ผู้ขับขี่มีสมาธิในการขับรถ จึงควรตรวจสอบการทำงานของคอมเพรสเซอร์และพัดลม ความเย็นควรเพียงพอและกระจายทั่วถึง หากพบว่าความเย็นลดลงควรตรวจสอบระดับน้ำยาแอร์
10. อุปกรณ์ฉุกเฉินที่จำเป็น
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญนอกเหนือจากการเช็กรถยนต์ก่อนเดินทางไกลคือ การเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินให้พร้อม เช่น แม่แรง ประแจขันล้อ ไฟฉาย สามเหลี่ยมสะท้อนแสง ชุดปฐมพยาบาล และเครื่องมือพื้นฐาน นอกจากนี้ควรมีสายพ่วงแบตเตอรี่และเชือกลากจูงติดรถไว้ด้วย
เคล็ดลับการเตรียมตัวเพิ่มเติม
การวางแผนเส้นทาง
การวางแผนเส้นทาง เป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เริ่มต้นด้วยการศึกษาเส้นทางหลักและเส้นทางสำรองล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน แผนที่ หรือเว็บไซต์วางแผนการเดินทาง และควรจดบันทึกจุดสังเกตสำคัญระหว่างทาง เช่น ทางแยก ทางลัด หรือจุดที่อาจสับสน นอกจากนี้ ควรสำรวจตำแหน่งของสถานีบริการน้ำมัน ร้านอาหาร และจุดพักรถที่ได้มาตรฐานตลอดเส้นทาง ที่สำคัญคือการดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์เก็บไว้ใช้ในกรณีที่สัญญาณอินเทอร์เน็ตขัดข้อง และควรแชร์แผนการเดินทางให้คนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทรับทราบด้วย
การเตรียมเอกสารสำคัญ
การเตรียมเอกสารสำคัญ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องใส่ใจ เอกสารที่จำเป็นต้องพกติดตัวประกอบด้วย ใบขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุ เอกสารทะเบียนรถ พ.ร.บ. คู่มือและเอกสารประกันภัยรถยนต์ ควรตรวจสอบวันหมดอายุของเอกสารทุกฉบับก่อนออกเดินทาง และจัดเก็บในที่ปลอดภัย เข้าถึงได้สะดวก แนะนำให้ถ่ายสำเนาหรือถ่ายรูปเอกสารสำคัญเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือเป็นสำรอง และหากเดินทางข้ามจังหวัดควรมีสำเนาทะเบียนบ้านหรือบัตรประชาชนติดตัวไว้ด้วย
การพักรถระหว่างทาง
การพักรถระหว่างทางเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพื่อความปลอดภัยควรหยุดพักทุก 2-3 ชั่วโมง หรือเมื่อรู้สึกเหนื่อยล้า ง่วงนอน หรือสมาธิไม่ดี การพักควรใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที เพื่อยืดเส้นยืดสาย เข้าห้องน้ำ หรือรับประทานอาหารว่าง ควรเลือกจุดพักรถที่ปลอดภัย มีแสงสว่างเพียงพอ และมีการรักษาความปลอดภัยที่ดี เช่น ปั๊มน้ำมัน ร้านกาแฟ หรือจุดพักรถที่ทางหลวงจัดไว้ให้ หลีกเลี่ยงการจอดพักข้างทางในที่เปลี่ยว และไม่ควรขับรถติดต่อกันนานเกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน หากเดินทางไกลมากควรวางแผนแวะพักค้างคืนระหว่างทาง
การตรวจเช็กสภาพรถก่อนเดินทางไกลไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอย่างที่คิด แค่ใช้เวลาสัก 15-30 นาทีก่อนออกเดินทาง คุณก็สามารถลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม นอกจากการเตรียมความพร้อมของรถแล้ว การเตรียมความพร้อมด้านการคุ้มครองก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน
เพียงมีประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ไว้ช่วยดำเนินเรื่อง ก็พร้อมอุ่นใจได้ทุกสถานการณ์ เลือกแผนประกันรถระยะสั้นได้แล้ววันนี้กับ gettgo พร้อมเช็กเบี้ยแผนประกันรถยนต์ที่สนใจได้อย่างรวดเร็ว ทันใจ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม ปรึกษาเจ้าหน้าที่โทร. 02-111-7800 หรือ LINE OA : @gettgo
ข้อมูลอ้างอิง
The ultimate road trip checklist, preparing your vehicle. สืบค้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567. จาก https://www.sarugbymag.co.za/ultimate-road-trip-checklist-preparing-vehicle/