ประกันของเรา
บทความ
เกี่ยวกับ gettgo

ตรวจเช็กระยะรถยนต์ประจำปีมีอะไรบ้าง สำคัญอย่างไร ?

รถเข้าศูนย์กำลังตรวจเช็กระยะประจำปี.jpg

 

รถยนต์ เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ชีวิตประจำวันสะดวกสบายมากขึ้น แต่หลายคนอาจมองข้ามความสำคัญของการตรวจเช็กระยะรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ การตรวจเช็กระยะประจำปีจึงเปรียบเสมือนการดูแลสุขภาพรถยนต์ของเรา เพื่อให้การทำงานยังคงมีประสิทธิภาพและช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาที่อาจตามมา หากคุณสงสัยว่าการตรวจเช็กระยะรถยนต์สำคัญอย่างไร และมีขั้นตอนอะไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบให้คุณ พร้อมแนะนำเคล็ดลับการตรวจเช็กระยะให้คุ้มค่า

เช็กระยะรถยนต์คืออะไร ?

การตรวจเช็กระยะรถยนต์ คือ การตรวจสอบและบำรุงรักษารถยนต์ตามระยะเวลาหรือระยะทางที่กำหนดโดยคู่มือการใช้งานรถยนต์ เช่น ทุก 5,000 กิโลเมตร หรือทุก 6 เดือน เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานรถยนต์เป็นเวลานาน

ความสำคัญของการตรวจเช็กระยะรถยนต์

- เพิ่มความปลอดภัย : การตรวจสอบส่วนสำคัญ เช่น ระบบเบรก ยาง และแบตเตอรี่ ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน

- สร้างความมั่นใจและอุ่นใจ : การตรวจเช็กระยะทำให้คุณมั่นใจได้ว่ารถยนต์พร้อมใช้งานในทุกสถานการณ์

- ช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ : การบำรุงรักษาสม่ำเสมอช่วยลดการสึกหรอของเครื่องยนต์และส่วนประกอบอื่น ๆ

- ลดภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาว : การซ่อมบำรุงปัญหาเล็ก ๆ ในเวลาที่เหมาะสม ช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาใหญ่ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงกว่า

- รักษาสมรรถนะของรถยนต์ : การตรวจเช็กช่วยให้เครื่องยนต์และระบบอื่น ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตารางเช็กระยะประจำปี

 

ระยะเวลา ระยะทาง รายการตรวจสอบ
ทุก 6 เดือน 5,000 กิโลเมตร

• เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง

• เช็กระดับน้ำมันเบรกและน้ำหล่อเย็น

• ตรวจสภาพยาง (ความดันและการสึกหรอ)

• ตรวจระบบไฟฟ้าและแบตเตอรี่

6-12 เดือน 10,000 กิโลเมตร

• ตรวจเช็กเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องพร้อมไส้กรอง

• สลับยาง ถ่วงล้อ

• ตรวจความเสื่อมสภาพของที่ปัดน้ำฝน

• ตรวจเช็กระบบเบรก ระบบคลัตช์

• ตรวจดูการรั่วซึมของท่อและสายน้ำมันคลัตช์

• ระบบช่วงล่างทั้งโช๊คอัพหน้า-หลัง

12-24 เดือน 20,000 กิโลเมตร

• เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรอง และน้ำมันเกียร์

• ดูความตึงและหย่อนของสายพานขับและสายพานเครื่องยนต์

• เช็กระบบช่วงล่างไล่มาตั้งแต่ระบบบังคับเลี้ยว ระบบคันชัก-คันส่ง ลูกหมาก

24 เดือนขึ้นไป 40,000 กิโลเมตร

• เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรอง เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรก น้ำมันคลัตช์ น้ำมันพวงมาลัย น้ำมันเกียร์ออโต้ และน้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์

• เปลี่ยนสายพานขับปั๊ม สายพานแอร์ และใบปัดน้ำฝน

36 เดือนขึ้นไป  60,000 กิโลเมตร

• เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรอง

• เปลี่ยนอุปกรณ์บางอย่างที่ถึงอายุการใช้งาน เช่น แบตเตอรี่ หัวเทียน กรองน้ำมันเชื้อเพลิง และอื่น ๆ

 

ช่างกำลังตรวจเช็กระยะรถยนต์

 

 Q&A ตรวจเช็กระยะรถยนต์

Q1. เช็กระยะรถทุกกี่กิโลเมตร ?

รถยนต์ส่วนใหญ่ควรตรวจเช็กทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร หรือ 6 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน หากขับในพื้นที่ที่สภาพถนนยากลำบาก อาจต้องเช็กถี่ขึ้น

Q2. รถใหม่เช็กระยะกี่กิโลเมตร ?

สำหรับรถใหม่จะมีการแนะนำให้เช็กระยะใน 1,000 กิโลเมตรแรก เพื่อทำการตรวจสอบสภาพรถและการทำงานของเครื่องยนต์ จากนั้นจึงเช็กตามระยะเวลาปกติ

Q3. รถเข้าศูนย์เช็กอะไรบ้าง ?

เมื่อรถยนต์เข้าศูนย์บริการ ช่างผู้เชี่ยวชาญจะทำการตรวจสอบส่วนสำคัญดังนี้

- น้ำมันเครื่อง : ตรวจระดับและเปลี่ยนถ้าจำเป็น 

- ระบบเบรก : ตรวจผ้าเบรกและน้ำมันเบรก 

- สภาพยาง : ตรวจหารอยฉีกขาด แรงดันลม และสภาพดอกยาง 

- แบตเตอรี่ : ตรวจความเสถียรของไฟฟ้าและทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ 

- ระบบไฟฟ้า : ตรวจไฟหน้า ไฟท้าย และระบบไฟสัญญาณ 

- ระบบหล่อเย็น : ตรวจระดับน้ำหล่อเย็นและหม้อน้ำ

เคล็ดลับการตรวจเช็กระยะรถยนต์ให้คุ้มค่า

การตรวจเช็กระยะรถยนต์ ไม่เพียงช่วยให้รถของคุณอยู่ในสภาพดีและปลอดภัย แต่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาวด้วยเคล็ดลับดังนี้

- เลือกศูนย์บริการที่น่าเชื่อถือ : เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับบริการที่มีคุณภาพและปลอดภัย 

- ติดตามระยะเวลาและระยะทางการใช้งาน : วางแผนการตรวจเช็กให้เหมาะสมตามคู่มือรถยนต์ 

- เปรียบเทียบค่าใช้จ่าย : ตรวจสอบค่าใช้จ่ายจากศูนย์บริการต่าง ๆ เพื่อเลือกบริการที่เหมาะสมที่สุด 

- ใช้ประกันรถยนต์เพื่อเพิ่มความคุ้มค่า : ประกันบางประเภท เช่น ประกันระยะสั้น หรือประกันเสริม อาจครอบคลุมค่าใช้จ่ายบางส่วนในการบำรุงรักษา 

 

การตรวจเช็กระยะรถยนต์เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้รถยนต์ของคุณปลอดภัยและพร้อมใช้งานอยู่เสมอ หากคุณต้องการเพิ่มความอุ่นใจอีกขั้น gettgo ขอแนะนำ ประกันรถยนต์ระยะสั้น ซึ่งมีแผนคุ้มครองที่เลือกได้ทั้ง 30 วัน, 90 วัน และ 180 วัน ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองแบบยืดหยุ่น ครอบคลุม และสมัครง่าย ตรวจเช็กเบี้ยประกันได้ทันทีผ่านเว็บไซต์ หรือสอบถามเพิ่มเติมผ่าน LINE OA: @gettgo หรือโทร. 02-111-7800

 

ข้อมูลอ้างอิง 

จุดสำคัญที่ควรตรวจสภาพรถใหม่เมื่อวิ่งครบระยะ. สืบค้นเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2567. จาก https://www.cockpit.co.th/post/199/จุดสำคัญที่ควรตรวจสภาพรถใหม่เมื่อวิ่งครบระยะ

บทความที่คุณอาจสนใจ

ออกรถใหม่ป้ายแดงคันแรก ต้องรู้ !
เผย 5 สาเหตุที่ทำให้แอร์รถยนต์ไม่เย็น เปิดมามีแต่ลม
ต่อประกันล่วงหน้ากันดีกว่า  อย่าชะล่าใจไป เพราะรู้อะไรก็ไม่เท่ารู้งี้
ความคุ้มครอง ประกันชั้น 1 ประกันชั้น 2+ ประกันชั้น 2 คุ้มครองเฉพาะคู่กรณี ประกันชั้น 3+ ประกันชั้น 3 คุ้มครองเฉพาะคู่กรณี
รถชน(ไม่มีคู่กรณี)
รถชน(มีคู่กรณี)
ค่ารักษาพยาบาล
รถยนต์สูญหาย
ไฟไหม้
น้ำท่วม

เข้าสู่ระบบ

หากยังไม่มีบัญชีผู้ใช้ กรุณา สมัครสมาชิก

 

สมัครสมาชิก

หากเป็นสมาชิกอยู่แล้วกรุณา ลงชื่อเข้าใช้งาน

Loading..

กำลังดำเนินการ กรุณารอสักครู่ค่ะ 😊

ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

    ข้าพเจ้ายินยอมให้บริษัท เมืองไทย โบรกเกอร์ จำกัด  (“บริษัท”)
เก็บรวบรวมใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าเพื่อการนำเสนอโปรโมชั่น สิทธิพิเศษ ข่าวสาร ผลิตภัณฑ์ บริการ จากบริษัท รวมถึงการพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ การวิเคราะห์ วิจัย ทำสถิติจากบริษัท และ/หรือบริษัทในเครือและพันธมิตรทางธุรกิจ และเพื่อโอกาสที่ข้าพเจ้าจะได้รับข้อเสนอ บริการพิเศษ โปรโมชั่น หรือผลิตภัณฑ์ที่คัดสรรมาอย่างเหมาะสมจากบริษัทในเครือและพันธมิตรทางธุรกิจ ข้าพเจ้ายินยอมให้เปิดเผยข้อมูลของข้าพเจ้าให้แก่บริษัทดังกล่าว เพื่อวิเคราะห์ตลอดจนการนำเสนอ ผลิตภัณฑ์และบริการ 

การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล 

    ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
    บริษัทจะดำเนินการอย่างดีที่สุดในการรักษาความลับและดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัย คุณสามารถเลือกให้หรือไม่ให้ความยินยอมโดยไม่มีผลต่อการพิจารณาผลิตภัณฑ์หรือบริการ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เว็บไซต์ https://gettgo.com/privacy-policy
ทั้งนี้คุณสามารถเปลี่ยนแปลงการให้ความยินยอมได้ โดยติดต่อเราที่ email : dpo-office@mtb.co.th หรือโทร 02-693-2775 (DPO)
     การที่คุณยอมรับตามด้านล่างนี้ถือว่าคุณได้ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้
และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามที่ได้กำหนดไว้ข้างต้น