ประกันของเรา
บทความ
เกี่ยวกับ gettgo
รู้จุดเด่น... เห็นจุดต่าง ทุกประกันออนไลน์ gett แล้ว go เลย!
ประกันรถยนต์

เช็กราคาประกันภัยรถยนต์หรือซื้อประกันรถออนไลน์ได้เลย

มาเพิ่มความอุ่นใจในการขับขี่รถยนต์ของคุณ ด้วยการซื้อประกันรถยนต์ สามารถเช็กเบี้ยประกันรถยนต์ได้รวดเร็วทันใจ หรือมองหาประกันรถยนต์ราคาถูก
ก็ทำได้ง่าย ๆ ทางออนไลน์ ที่นี่เลย

 
Preloader

กำลังดำเนินการ กรุณารอสักครู่ค่ะ 😊

ซื้อประกันออนไลน์

เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ออนไลน์ได้ง่าย ๆ ที่ gettgo

  สำหรับใครที่กำลังต้องการทำประกันรถออนไลน์ ก่อนเลือกทำประกันรถยนต์ gettgo จะพาไปทำความรู้จักกับประเภทและความคุ้มครองของผลิตภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ ให้คุณเลือกประกันที่ใช่ในแบบเข้าใจง่าย เราแบ่งประเภทประกันรถยนต์ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

ประกันรถยนต์ภาคบังคับ ?

ประกันรถยนต์ภาคบังคับ

  ประกันรถยนต์ภาคบังคับ หรือที่เราเรียกว่า พ.ร.บ. ซึ่งกฎหมายในประเทศของเราบังคับให้รถที่มีการจดทะเบียนต้องทำทุกคัน ถ้าไม่ทำก็จะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท อีกทั้ง พ.ร.บ. ยังต้องใช้เพื่อต่อภาษีรถประจำปีด้วย


พ.ร.บ. คุ้มครองอะไรบ้าง ?

1) ค่ารักษาพยาบาล กรณีบาดเจ็บ

2) ค่าชดเชย กรณีแอดมิต ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล

3) ค่าปลงศพ กรณีเสียชีวิต

ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ?

ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ

  ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ โดยกฎหมายไม่ได้บังคับ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของคุณเอง ประกันรถยนต์ประเภทนี้จะมีให้เลือกหลายแบบ สามารถซื้อได้จากทั้งบริษัทประกันภัย หรือโบรกเกอร์ประกันภัยซึ่งความคุ้มครองจะครอบคลุมถึงความเสียหายต่อตัวรถคุณ ชีวิตร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก เนื่องจากมีความคุ้มครองและสิทธิพิเศษมากกว่าประกันภาคบังคับ จึงทำให้มีอัตราค่าเบี้ยประกันที่สูงกว่าด้วยนั่นเอง

  ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจนั้นจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละประเภท ซึ่งคุณสามารถที่จะเลือกซื้อประกันประเภทนี้ตามความเหมาะสมได้ โดยพิจารณาจาก อายุรถ ลักษณะการใช้งาน ซึ่งหากคุณกำลังมองหาประกันภัยรถยนต์ราคาไม่แพงที่คุ้มครองสูง มีอัตราค่าเบี้ยในราคาที่คุ้มค่า ลองมาเช็กราคาประกันรถยนต์หรือซื้อประกันรถออนไลน์ที่ gettgo ได้เลย แต่ก่อนที่จะเลือกซื้อประกันรถยนต์ gettgo จะพาไปทำความเข้าใจกับประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจในแต่ละประเภทดังต่อไปนี้

ประเภทประกันรถ

ประกันรถยนต์ชั้น 1

สำหรับมือใหม่ หรือผู้ที่เพิ่งซื้อรถใหม่
ต้องการความคุ้มครองครบ

  ถ้าคุณมีรถใหม่อายุไม่เกิน 10 ปี อยากขับรถแบบสบายใจ ได้ความคุ้มครองที่ครบ ต้องเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ซึ่งเป็นแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะคุ้มครองรถคุณ ไม่ว่าจะรถหาย รถชน ทั้งแบบมีคู่กรณีหรือไม่มี และคุ้มครองทรัพย์สิน ชีวิต ร่างกายและอนามัย ของคู่กรณีในกรณีเกิดอุบัติเหตุด้วย

ประกันรถยนต์ชั้น 2+

สำหรับผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์ในการขับขี่ และใช้รถอยู่เป็นประจำ

  หากอยากได้ประกันภัยรถยนต์ราคาสบายกระเป๋าแต่ความคุ้มครองเกือบครบ คุณเหมาะกับการทำประกันรถยนต์ประเภท 2+ ความคุ้มครองแทบจะเหมือนกับการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ไม่ว่าจะรถชน รถหาย แต่จะไม่เหมือนประกันชั้น 1 ตรงที่จะคุ้มครองการชนแบบมีคู่กรณีเท่านั้น แต่เบี้ยประกันถูกลงกว่าเยอะ

ประกันรถยนต์ชั้น 3+

สำหรับสายประหยัด แต่อยากอุ่นใจเรื่องอุบัติเหตุ

  หากคุณอยากประหยัดเบี้ยประกันลงอีก และต้องการความคุ้มครองด้านอุบัติเหตุเป็นหลัก คุณเหมาะกับการทำประกันรถยนต์ชั้น 3 + ที่ความคุ้มครองแทบจะเหมือนกับการทำประกันชั้น 2+ ต่างแค่ไม่คุ้มครองกรณีรถหาย

ประกันรถยนต์ชั้น 3

สำหรับผู้ชำนาญในการขับขี่ และผู้ใช้รถน้อย

  สำหรับคนที่มั่นใจตัวเองว่าเป็นคนขับรถดี หรือใช้รถน้อย คุณน่าจะเหมาะกับการทำประกันรถยนต์ ชั้น 3 ซึ่งจะคุ้มครองทรัพย์สิน ชีวิต ร่างกายและอนามัย ของคู่กรณีเท่านั้น เบี้ยประกันจะถูกที่สุดเพราะความคุ้มครองจะน้อยที่สุด

    gettgo ขอขยายความการชนแบบมีคู่กรณี หรือแบบไม่มีคู่กรณี ให้เข้าใจมากขึ้น ดังนี้

  • การชนแบบมีคู่กรณี คือ คุณขับรถไปชนรถคนอื่นเข้าแล้วเกิดความเสียหาย หรือจำง่าย ๆ ว่า รถชนรถนั่นเอง
  • การชนแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ขับไปชนเสาไฟ กระถางต้นไม้ หินกระเด็นใส่กระจกหน้าแตก น้ำท่วมรถ ประกันชั้น 1 เบี้ยประกันจะแพงกว่าประกันชั้นอื่น ๆ แต่ซื้อแล้วสบายใจสุด ๆ

แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเลือกทำประกันรถยนต์ประเภทใดนั้น ควรเช็กราคาประกันภัยรถยนต์ให้ถี่ถ้วนเสียก่อน ว่าเป็นราคาที่คุณยอมรับได้และลงตัวกับการใช้งานรถของคุณอย่างแท้จริง ซึ่งตอนนี้ คุณสามารถเปรียบเทียบความคุ้มครองของประกันรถยนต์ออนไลน์ หรือแม้แต่ซื้อประกันรถยนต์ทางออนไลน์ ได้ง่ายๆ ที่ gettgo เลย

บล็อกน่ารู้เกี่ยวกับรถยนต์

ข้อดีของประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ไขสงสัยทำไมต้องมี ?

ข้อดีของประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ไขสงสัยทำไมต้องมี ?

หลายคนอาจมีความสงสัยว่า โดยปกติผู้ขับขี่รถยนต์จะต้องทำประกันรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 กันอยู่แล้วทุกปี เพื่อที่จะได้รับความคุ้มค..

อ่านต่อ

5 ข้อควรเตรียมพร้อมก่อนเที่ยวดิสนีย์แลนด์ญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

5 ข้อควรเตรียมพร้อมก่อนเที่ยวดิสนีย์แลนด์ญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ดิสนีย์แลนด์ ประเทศญี่ปุ่น (Disneyland Japan) คือจุดหมายปลายทางในฝันของใครหลายคน เพราะที่นี่ไม่เพียงแต่จะเป็นดินแดนมหัศจรรย์ที่สร้างสรรค์จากเรื่องราวเทพนิยายและการ์ตูนยอดนิยม แต่..

อ่านต่อ

รู้เท่าทัน 5 โรคที่เกิดจากความเครียด ก่อนเป็นอันตรายถึงชีวิต

รู้เท่าทัน 5 โรคที่เกิดจากความเครียด ก่อนเป็นอันตรายถึงชีวิต

ในปัจจุบันหลายคนเผชิญกับปัญหา "ความเครียด" โดยไม่รู้ตัว ภาวะนี้ไม่เพียงส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึก แต่ยังบั่นทอนสุขภาพกายของเรา และสามารถเป็นต้นเหตุที่ก่อให้เกิดโรคร้ายมากมายที่ไ..

อ่านต่อ

อ่านทั้งหมด

คำถามที่พบบ่อย

ประกันรถยนต์คืออะไร ?

ประกันรถยนต์ (Motor Insurance) คือประกันภัยที่คุ้มครองผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงบุคคลที่สาม จากอุบัติเหตุหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการขับขี่รถยนต์ โดยจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกันตามค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่เกินวงเงินประกันภัยโดยจะคุ้มครอง 2 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่

  • ความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่รถยนต์ เช่น ค่าซ่อมรถ
  • ร่างกายและทรัพย์สิน คุ้มครองทั้งค่ารักษาพยาบาลของผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงบุคคลภายนอกที่ได้รับบาดเจ็บจากรถคันที่ทำประกันภัย
จำเป็นต้องทำประกันรถยนต์เพิ่มมั้ย ถ้ามี พ.ร.บ. รถยนต์อยู่แล้ว ?

แนะนำให้ทำประกันรถยนต์เพิ่มด้วยครับ เนื่องจากประกันรถยนต์จะให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมจาก พ.ร.บ.รถยนต์ เช่น ค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติม ค่าชดเชยต่างๆ รวมถึงค่าซ่อมรถด้วย แต่ พ.ร.บ. จะคุ้มครองเฉพาะค่ารักษาพยาบาล ค่าสินไหมทดแทนเมื่อเสียชีวิตเท่านั้น ไม่ได้คุ้มครองตัวรถนั่นเอง

ประกันรถยนต์แต่ละประเภท เหมาะกับใครบ้าง ?

นอกจากเลือกความคุ้มครองแล้ว ไลฟ์สไตล์การขับขี่ก็สำคัญไม่แพ้กัน

  • ประกันชั้น 1 เหมาะกับมือใหม่ หรือผู้ที่เพิ่งซื้อรถใหม่ ต้องการความคุ้มครองครบ
  • ประกันชั้น 2+ เหมาะกับผู้ที่ขับรถชำนาญ ขับทุกวัน หรือเดินทางบ่อย
  • ประกันชั้น 3+ สำหรับสายประหยัด แต่อยากอุ่นใจเรื่องอุบัติเหตุ
  • ประกันชั้น 3 เหมาะกับผู้ที่ขับรถเก่าหรือรถมือสอง และไม่เคยมีประวัติขับรถชนเลย เมื่อเกิดอุบัติเหตุก็หายห่วง
หากแต่งรถ / ดัดแปลงรถ ประกันยังให้ความคุ้มครองอยู่มั้ย ?

หากแต่งรถเพื่อความสวยงาม หรือเพื่อให้รถยึดเกาะกับถนนได้ดีขึ้น ประกันยังคงให้ความคุ้มครองครับ แต่ถ้าตกแต่งรถหลังจากทำประกันไปแล้ว ต้องแจ้งให้บริษัทฯ ประกันทราบ เพื่อความคุ้มครองชุดอุปกรณ์ตกแต่งนั้นด้วย หากไม่แจ้ง บริษัทฯ ประกัน จะคุ้มครองอุปกรณ์พื้นฐานที่ติดตั้งมาจากโรงงาน ตามที่ออกจากโรงงานเท่านั้น แต่กรณีที่มีการแต่งรถเพื่อเพิ่มความเร็ว เพื่อการแข่งขัน ถือเป็นการใช้รถผิดประเภทประกันจะไม่ให้ความคุ้มครองครับ

แล้วมีกรณีไหนบ้าง ที่ประกันรถยนต์ไม่คุ้มครอง ?
  • เมาแล้วขับ
  • ขับรถแข่งความเร็ว
  • ไม่ได้ทำใบขับขี่
  • นำรถยนต์ไปใช้ในทางผิดกฎหมาย
  • ความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานหนัก หรือเสื่อมสภาพตามอายุ
  • ขับรถออกนอกพื้นที่คุ้มครอง
  • ใช้งานรถยนต์นอกเหนือจากที่จดกรมธรรม์ไว้
  • นำรถไปลากจูง
  • กรณีเกิดสงคราม ปรมาณู หรือกัมมันตภาพรังสีของเชื้อเพลิงปรมาณู
ค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) คืออะไร ทำไมต้องจ่าย ?

ค่าเสียหายส่วนแรก หรือค่า Deductible เป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้เอาประกันยินดีรับผิดชอบเมื่อมีการเคลมประกันในอุบัติเหตุที่เป็นฝ่ายผิดเอง เช่น ค่าเสียหายส่วนแรก 1,000 บาท เมื่อเกิดเหตุและมีความเสียหายเท่ากับหรือน้อยกว่า 1,000 บาท ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายเอง ทางประกันจะไม่ได้ชดเชยให้ แต่ถ้าค่าเสียหายในครั้งนั้นมากกว่า 1,000 บาท บริษัทประกันจะรับผิดชอบส่วนต่างที่เกินมาให้นั่นเอง

แล้วค่า Excess ต่างกับค่า Deductible ยังไงบ้าง ?

ง่าย ๆ เลยก็คือ ค่า Excess เป็นค่าใช้จ่ายที่ “บังคับเก็บ” ไม่ว่าคุณจะทำประกันชั้นไหน หรือบริษัทใดก็ตาม โดยกรณีที่เข้าข่ายโดนเก็บค่า Excess ก็คือ อุบัติเหตุที่ไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ ส่วนค่า Deductible เป็นค่าใช้จ่ายที่คุณยอมเสีย “แบบสมัครใจ” ทุกครั้งที่มีการเคลมในอุบัติเหตุ “ที่คุณเป็นฝ่ายผิด”

หากเกิดอุบัติเหตุ จะเคลมประกันรถยนต์ยังไง ?

เมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ อย่างแรกให้ตั้งสติและโทรหาบริษัทประกันรถทันที เพื่อแจ้งเคลมกับทางเจ้าหน้าที่ โดยจะต้องบอกให้ละเอียดว่า เกิดเหตุขึ้นเมื่อไหร่ มีคู่กรณีหรือไม่ มีคนบาดเจ็บไหม หากมีหลักฐานกล้องวงจรปิดหรือพยานที่เห็นเหตุการณ์ ก็จะเป็นหลักฐานสำคัญในการเคลมประกันรถยนต์ของคุณได้ครับ

แล้ว "ซ่อมอู่" กับ "ซ่อมห้าง (ศูนย์)" ต่างกันยังไง ?

"ซ่อมอู่" คือคุณต้องนำรถเข้าซ่อมกับอู่ที่อยู่ในเครือของบริษัทประกัน (ไม่ต้องสำรองจ่าย) หรืออู่อื่นๆ ที่อยู่นอกเครือ (ต้องสำรองจ่าย) เท่านั้น

"ซ่อมห้าง (ศูนย์)" คุณสามารถนำรถเข้าซ่อมกับศูนย์บริการของยี่ห้อรถยนต์ของคุณที่อยู่ในเครือบริษัทประกันได้ด้วย ซึ่งปกติแล้วเบี้ยประกันแบบซ่อมห้าง (ศูนย์) จะแพงกว่าแบบซ่อมอู่

ถ้าไม่เคยเคลมประกันเลย ค่าเบี้ยฯ ในปีถัดไปจะลดลงมั้ย ?

จริงๆ แล้วเบี้ยประกันสามารถลดได้ครับ ควรหมั่นเช็กเบี้ยประกันทุกปี สำหรับรถที่ไม่เคยมีการเคลมประกันเลยในช่วงปีแรก เบี้ยประกันในปีต่อไปจะลดลง อีกกรณีหนึ่งถ้ารถเกิดอุบัติเหตุแล้วคุณเป็นฝ่ายถูก บริษัทประกันจะเรียกเงินค่าเสียหายจากคู่กรณีได้ ก็ช่วยให้เบี้ยประกันในปีถัดไปลดลงเช่นกัน ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนบริษัทประกันภัยใหม่ โดยมีประวัติการขับรถดี ไม่มีการเคลมประกันเลย ก็สามารถนำไปลดเบี้ยประกันกับทางบริษัทประกันใหม่ได้เช่นกันครับ

ซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ ได้รับความคุ้มครองทันทีมั้ย ?

ในส่วนของการเริ่มต้นความคุ้มครอง จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละกรมธรรม์ครับ

ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ หลังจากรถของคุณผ่านการพิจารณารับประกันภัย และตรวจสภาพจากบริษัทฯ เรียบร้อยแล้วเท่านั้น

ส่วนประกันรถยนต์ 2+,3+,3 และ พ.ร.บ. จะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ ตามวันที่ที่คุณระบุไว้ เช่น ระบุเป็นวันที่ 1 มกราคม 2566 จะเริ่มคุ้มครอง 1 มกราคม 2566 (เวลา 00.01 น.) และสิ้นสุดความคุ้มครอง 1 มกราคม 2567 (เวลา 16.30 น.)

ซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์กับ gettgo ดียังไง ?

เพราะ gettgo ทำให้การซื้อประกันเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบาย สามารถค้นหา เปรียบเทียบ และเลือกซื้อแบบประกันที่คุ้มค่าและเหมาะสมได้ด้วยตัวเอง มีช่องทางชำระเงินให้เลือกตามสะดวก และเลือกผ่อนชำระได้สูงสุดถึง 10 เดือน

Back to Top

Loading..

กำลังดำเนินการ กรุณารอสักครู่ค่ะ 😊

ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

    ข้าพเจ้ายินยอมให้บริษัท เมืองไทย โบรกเกอร์ จำกัด  (“บริษัท”)
เก็บรวบรวมใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าเพื่อการนำเสนอโปรโมชั่น สิทธิพิเศษ ข่าวสาร ผลิตภัณฑ์ บริการ จากบริษัท รวมถึงการพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ การวิเคราะห์ วิจัย ทำสถิติจากบริษัท และ/หรือบริษัทในเครือและพันธมิตรทางธุรกิจ และเพื่อโอกาสที่ข้าพเจ้าจะได้รับข้อเสนอ บริการพิเศษ โปรโมชั่น หรือผลิตภัณฑ์ที่คัดสรรมาอย่างเหมาะสมจากบริษัทในเครือและพันธมิตรทางธุรกิจ ข้าพเจ้ายินยอมให้เปิดเผยข้อมูลของข้าพเจ้าให้แก่บริษัทดังกล่าว เพื่อวิเคราะห์ตลอดจนการนำเสนอ ผลิตภัณฑ์และบริการ 

การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล 

    ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
    บริษัทจะดำเนินการอย่างดีที่สุดในการรักษาความลับและดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัย คุณสามารถเลือกให้หรือไม่ให้ความยินยอมโดยไม่มีผลต่อการพิจารณาผลิตภัณฑ์หรือบริการ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เว็บไซต์ https://gettgo.com/privacy-policy
ทั้งนี้คุณสามารถเปลี่ยนแปลงการให้ความยินยอมได้ โดยติดต่อเราที่ email : dpo-office@mtb.co.th หรือโทร 02-693-2775 (DPO)
     การที่คุณยอมรับตามด้านล่างนี้ถือว่าคุณได้ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้
และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามที่ได้กำหนดไว้ข้างต้น