หลายคนที่วางแผนจะขับรถเที่ยวในญี่ปุ่น มักจะมีคำถามมากมายเกี่ยวกับการเตรียมตัว กฎระเบียบ และข้อควรรู้ต่าง ๆ วันนี้เราจึงรวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการขับรถในญี่ปุ่นมาตอบแบบละเอียด เพื่อให้คุณสามารถวางแผนทริปได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
คำถามเกี่ยวกับเอกสารและการเตรียมตัว
1. ใช้ใบขับขี่ไทยขับรถในญี่ปุ่นได้ไหม ?
ใบขับขี่ไทยเพียงอย่างเดียวใช้ไม่ได้ คุณจำเป็นต้องมีใบขับขี่สากล (International Driving Permit - IDP) ควบคู่กันไปด้วย โดยต้องเป็นแบบ 1 ปี ตามอนุสัญญาเจนีวา 1949 เท่านั้น ส่วนใบขับขี่สากลแบบ 3 ปี ตามอนุสัญญาเวียนนา 1968 จะไม่สามารถใช้ได้ในญี่ปุ่น
2. เช่ารถในญี่ปุ่นมีเงื่อนไขอะไรบ้าง ?
โดยทั่วไป บริษัทเช่ารถในญี่ปุ่นมักมีข้อกำหนดดังนี้
- - ผู้ขับขี่มีอายุขั้นต่ำที่ 18 หรือ 20 ปีขึ้นไป
- - มีใบขับขี่ของญี่ปุ่นหรือใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศ (IDP) ที่ยังไม่หมดอายุ
3. เช่ารถขับในญี่ปุ่น ต้องจองรถล่วงหน้านานแค่ไหน ?
แนะนำให้จองล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือนก่อนเดินทาง โดยเฉพาะในช่วงไฮซีซัน เช่น ซากุระบาน (มีนาคม-เมษายน) ใบไม้เปลี่ยนสี (ตุลาคม-พฤศจิกายน) หรือช่วงปีใหม่ เพราะรถมักจะถูกจองเต็มเร็วมาก อีกทั้งการจองล่วงหน้ายังได้ราคาที่ถูกกว่าด้วย
4. ค่าเช่ารถประมาณเท่าไร ?
ค่าเช่ารถเริ่มต้นประมาณวันละ 5,000 เยน สำหรับรถขนาดเล็ก และจะไม่รวมค่าน้ำมันและค่าทางด่วน โดยค่าน้ำมันประมาณ 150-170 เยนต่อลิตร ส่วนค่าทางด่วนคิดตามระยะทาง เช่น โตเกียว-เกียวโต อาจเสียค่าทางด่วนประมาณ 10,000 เยน
คำถามเกี่ยวกับกฎจราจรและการขับขี่
5. ญี่ปุ่นขับรถฝั่งไหน ?
ญี่ปุ่นใช้การขับรถชิดซ้ายเหมือนกับประเทศไทย ซึ่งนับเป็นข้อดีสำหรับคนไทยที่ไม่ต้องปรับตัวมากอย่างไรก็ตาม ถนนในญี่ปุ่นบางเส้นอาจแคบกว่าที่เราคุ้นเคย โดยเฉพาะในย่านเมืองเก่าหรือพื้นที่ชนบท จึงควรขับด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ
6. ขับรถในญี่ปุ่นพวงมาลัยอยู่ด้านไหน ?
รถยนต์ในญี่ปุ่นมีพวงมาลัยอยู่ด้านขวา ซึ่งสอดคล้องกับระบบขับรถชิดซ้าย อย่างไรก็ตาม ควรทำความคุ้นเคยกับรถก่อนออกเดินทาง เนื่องจากปุ่มควบคุมหรือตำแหน่งอุปกรณ์อื่น ๆ อาจแตกต่างตามแต่ละรุ่นและยี่ห้อ
7. ความเร็วในการขับขี่เท่าไรถึงจะปลอดภัย ?
ในเขตเมืองความเร็วจำกัดอยู่ที่ 40-60 กม./ชม. ส่วนทางด่วนอยู่ที่ 80-100 กม./ชม. แนะนำให้ขับตามความเร็วที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เพราะญี่ปุ่นมีกล้องจับความเร็วติดตั้งอยู่ทั่วไป และค่าปรับค่อนข้างแพง
8. เลี้ยวซ้ายผ่านไฟแดงได้ไหม ?
ไม่ได้ การเลี้ยวซ้ายผ่านไฟแดงเป็นสิ่งผิดกฎหมาย คุณต้องรอให้ไฟเขียวก่อนเสมอ นอกจากนี้ ในบางจุดอาจมีป้าย "No Left Turn" ซึ่งหมายถึงห้ามเลี้ยวซ้ายโดยเด็ดขาด แม้ไฟจะเขียวก็ตาม
9. ป้ายจราจรในญี่ปุ่นเป็นอย่างไรบ้าง ?
ป้ายจราจรในญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมีทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษกำกับ โดยใช้รูปแบบและสีที่เป็นสากล เช่น ป้ายหยุด (STOP) เป็นรูปแปดเหลี่ยมสีแดง ป้ายเตือนเป็นรูปสามเหลี่ยมสีเหลือง แต่มีป้ายบางประเภทที่อาจแตกต่างจากบ้านเรา เช่น ป้าย "止まれ" (Tomare) หมายถึง "หยุด" ซึ่งมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมคว่ำสีแดง
10. กฎหมายจราจรที่สำคัญในญี่ปุ่นมีอะไรบ้าง ?
กฎหมายจราจรในญี่ปุ่นค่อนข้างเข้มงวด มีจุดสำคัญที่ควรรู้ดังนี้
- - ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถโดยเด็ดขาด แม้แต่ตอนรถติดไฟแดง
- - ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีต้องนั่งในที่นั่งสำหรับเด็ก (Child Seat)
- - ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดต้องไม่เกินกว่า 0.15 มก./ลิตร
- - เลี้ยวซ้ายตามสัญญาณไฟเท่านั้น ไม่มีการเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด
- - เมื่อเจอป้ายหยุด (สามเหลี่ยมคว่ำ สีแดง) ให้หยุดรถสนิทก่อนทุกครั้ง
- - ต้องหยุดให้คนเดินข้ามถนนก่อนเสมอ
คำถามเกี่ยวกับที่จอดรถและค่าใช้จ่าย
11. ที่จอดรถหายากไหม ราคาเท่าไร ?
ที่จอดรถในญี่ปุ่นหาค่อนข้างยาก โดยทั่วไปราคาจะอยู่ที่ประมาณ 300 เยนต่อชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ใจกลางเมือง หรือแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ค่าจอดรถอาจสูงกว่านี้
12. มีแอปพลิเคชันอะไรที่แนะนำสำหรับการขับรถในญี่ปุ่น ?
นอกจาก Google Maps แล้ว ยังมีแอปพลิเคชันที่เป็นประโยชน์อีกหลายตัว เช่น
- Japan Travel by NAVITIME : แอปฯ นำทางภาษาอังกฤษที่ออกแบบมาสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ
- ETC Online : แอปฯ ช่วยชำระค่าผ่านทางอัตโนมัติ โดยไม่ต้องหยุดรถ
- Safety Tips : แอปฯ แจ้งเตือนสภาพอากาศ สถานการณ์ฉุกเฉิน และภัยพิบัติในญี่ปุ่น
คำถามเกี่ยวกับสถานการณ์พิเศษและฉุกเฉิน
13. การขับรถในญี่ปุ่นช่วงฤดูหนาวต้องระวังอะไรเป็นพิเศษ ?
ควรระวังหิมะและน้ำแข็งบนท้องถนน โดยในบางพื้นที่ รถยนต์อาจจำเป็นต้องใช้ยางสำหรับหิมะ (Snow Tires) หรือโซ่พันล้อ ซึ่งโดยทั่วไปบริษัทรถเช่าส่วนใหญ่จะเตรียมอุปกรณ์เหล่านี้ไว้ให้ อย่างไรก็ดี ควรเช็กสภาพอากาศล่วงหน้า และหลีกเลี่ยงการขับรถในช่วงที่มีพายุหิมะ
14. ถ้าโดนตำรวจเรียก ควรสื่อสารอย่างไร ?
ตำรวจญี่ปุ่นส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้เล็กน้อย แนะนำให้พกบัตรประจำตัว ใบขับขี่ไทย ใบขับขี่สากล และเอกสารการเช่ารถติดตัวไว้เสมอ นอกจากนี้ ควรจดเบอร์ฉุกเฉินของบริษัทรถเช่าไว้ด้วย เผื่อต้องการล่ามแปลภาษา
15. ถ้าเกิดอุบัติเหตุขณะขับรถในญี่ปุ่นต้องทำอย่างไร ?
สิ่งแรกที่ต้องทำคือแจ้งตำรวจทันทีที่หมายเลข 110 และถ่ายรูปสถานที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน พร้อมแจ้งบริษัทรถเช่าโดยใช้เบอร์ฉุกเฉินที่ระบุในสัญญาเช่า ถ้ามีประกันการเดินทางต่างประเทศ ให้ติดต่อบริษัทประกันทันทีตามเบอร์ฉุกเฉินในกรมธรรม์ ทั้งนี้ อย่าลืมเก็บเอกสารทุกอย่างไว้เป็นหลักฐานประกอบการเคลม เช่น ใบแจ้งความ รายงานอุบัติเหตุ และใบเสร็จค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
ขับรถเที่ยวญี่ปุ่นอย่างมั่นใจ คุ้มครองทุกความปลอดภัยด้วยประกันเดินทางจาก gettgo
ก่อนออกเดินทางไปผจญภัยบนท้องถนนแดนอาทิตย์อุทัย อย่าลืมเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยด้วยการซื้อประกันการเดินทางต่างประเทศจาก gettgo ที่พร้อมให้คุณเปรียบเทียบและเลือกแผนความคุ้มครองที่เหมาะกับการเดินทางได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นแบบรายเที่ยวสำหรับทริปเดียว หรือแบบรายปีสำหรับคนที่เดินทางบ่อย
ด้วยความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งอุบัติเหตุ การเจ็บป่วย รวมถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับรถเช่า พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง จะช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับการขับรถเที่ยวในญี่ปุ่นได้อย่างไร้กังวล
ตรวจเช็กเบี้ยประกันและซื้อประกันเดินทางได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ หรือสอบถามเพิ่มเติมผ่าน LINE OA: @gettgo หรือโทร. 02-111-7800
ข้อมูลอ้างอิง
- ใบอนุญาตขับขีรถยนต ์ระหว่างประเทศ ่ (ใบขับขีสากล ่ )ที่ใช้ในประเทศญีปุ่ น. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 จาก https://www.keishicho.metro.tokyo.lg.jp/multilingual/other/thai/index.files/kokusaimenkyo_Thai.pdf.
- กฎหมายดื่มไม่ขับในญี่ปุ่น. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 จาก https://www.bangkokbiznews.com/blogs/columnist/121503.
- ช่องทางติดต่อเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 จาก https://www.sapporo.travel/th/info/about/in-case-of-emergency/.
- รู้จัก Safety tips แอพฯ เตือนภัยพิบัติในญี่ปุ่น ที่ชาวต่างชาติควรมีไว้อุ่นใจ. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 จาก https://positioningmag.com/1249609.
- ระบบจัดเก็บค่าผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETC). สืบค้นเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 จาก https://www.shutoko.co.jp/th-TH/index/technology/operation/etc/.